ออรัลเซ็กส์ มีงานวิจัยในประเทศอังกฤษพบว่า ผู้มีอาชีพขายบริการ เป็นโรคหนองในแท้ในลำคอจำนวนร้อยละ 1.9 จากการทำออรัลเซ็กซ์ งานตีพิมพ์ในนิตยสารการแพทย์ New England Journal ระบุว่าร้อยละ 50 ของมะเร็งในช่องปาก เกี่ยวข้องกับไวรัส HPV และมาจากการทำออรัลเซ็กซ์ และหากทำ ออรัลเซ็กซ์ ให้คน 5 คนขึ้นไปโดยไม่ป้องกัน ก็มีโอกาสมากกว่าคนทั่วไปถึง 9 เท่าที่จะเกิดมะเร็งที่ต่อมทอนซิล และมะเร็งที่ลิ้น
หนึ่งในกิจกรรมทางเพศ “ออรัลเซ็กส์” มักจะเป็นสิ่งที่แทบไม่มีคู่ไหนที่จะไม่ทำ ถือเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรือมีรสนิยมทางเพศแบบไหนก็ตาม การทำรักทางปากไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิต หากแต่ทั้งสองต้องยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย แต่แม้จะมอบความสุขให้กับคุณทั้งคู่ แต่อันตรายที่แฝงมาด้วยก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย
ข้อดีของการออรัลเซ็กส์
ออรัลเซ็กส์ (Oral Sex) ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางเพศที่หลายคู่เลือกใช้เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดและความพึงพอใจในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะคู่รักที่ต้องการสร้างความหลากหลายให้ชีวิตคู่ทางเพศโดยไม่จำเป็นต้องมีการสอดใส่โดยตรง
หนึ่งในข้อดีที่ชัดเจนที่สุด คือ ออรัลเซ็กส์ไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ เพราะไม่มีการปฏิสนธิระหว่างอสุจิกับไข่ จึงเป็นทางเลือกที่หลายคนรู้สึก “ปลอดภัยกว่า” หากเทียบกับเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องระวังเรื่อง “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ที่อาจแพร่ผ่านทางน้ำหลั่งหรือเยื่อบุในช่องปากได้
นอกจากเรื่องความปลอดภัยด้านการตั้งครรภ์แล้ว ออรัลเซ็กส์ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง เช่น
- ช่วยสร้างความพึงพอใจทางเพศให้ทั้งสองฝ่าย เพราะการกระตุ้นด้วยปาก ลิ้น และริมฝีปาก ทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่างจากการสัมผัสทั่วไป ช่วยให้คู่รักได้เรียนรู้ “จุดกระตุ้นความรู้สึก” ของกันและกันมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดทางอารมณ์ การทำออรัลเซ็กส์มักต้องอาศัยความไว้ใจและความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย การได้เรียนรู้ร่างกายของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งจึงช่วยเสริมความสัมพันธ์ทางใจ ทำให้รู้สึกผูกพันและใกล้ชิดกันมากขึ้น
- เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ สำหรับบางคู่ โดยเฉพาะวัยรุ่นหรือคู่รักที่ยังไม่พร้อมทางร่างกายหรืออารมณ์ ออรัลเซ็กส์อาจเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ได้สัมผัสความสุขทางเพศโดยไม่ต้องมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์
- เพิ่มสีสันให้ชีวิตคู่ หลายคู่ใช้ oral sex เป็นส่วนหนึ่งของการ “เล้าโลม” ก่อนมีเพศสัมพันธ์จริง หรือบางคู่ก็เลือกใช้เป็นกิจกรรมหลักเพื่อเติมเต็มความสัมพันธ์ทางเพศในแบบที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ
จากผลสำรวจในต่างประเทศ พบว่ามีผู้ใหญ่จำนวนมากกว่า 70% เคยมีประสบการณ์ทำออรัลเซ็กส์ และกว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “รู้สึกพึงพอใจทางเพศมากขึ้น” หลังมีกิจกรรมลักษณะนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าออรัลเซ็กส์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของ “ความเชื่อมโยงทางใจ” และ “การสื่อสาร” ระหว่างคู่รักด้วย อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักอยู่เสมอว่า แม้ออรัลเซ็กส์จะมีข้อดีมากมาย แต่ การป้องกัน ก็ยังสำคัญ เช่น การใช้ถุงยางอนามัยแบบมีรสชาติ หรือแผ่นยางบาง (dental dam) เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และรักษาความปลอดภัยของทั้งคู่
ข้อเสียของการ ออรัลเซ็กส์
หากไม่มีการป้องกัน คุณก็สามารถติดโรคได้ทุกโรค เนื่องจากการกลืนน้ำหล่อลื่นของฝ่ายหญิง หรือน้ำอสุจิของฝ่ายชายที่มีเชื้ออยู่ อาจทำให้ติดโรคได้ง่ายขึ้น โดยโรคที่มีโอกาสติดผ่านการทำรักทางปาก ได้แก่
- เชื้อไวรัสเอชไอวี แม้การทำออรัลเซ็กส์จะมีโอกาสติดเชื้อนี้น้อยกว่าการมีเซ็กส์ ทางทวารหนัก และช่องคลอด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาสติดเลย โดยเฉพาะถ้าช่องปากของฝ่ายรุก และอวัยวะเพศของฝ่ายรับ มีแผลที่สดใหม่ และได้รับปริมาณเชื้อที่มากพอ จึงถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน
- หนองในแท้ ออรัลเซ็กส์สามารถติดหนองในแท้ได้ทั้ง ฝ่ายรับ และฝ่ายรุก
- หนองในเทียม มีงานวิจัยพบหนองในเทียมที่อวัยวะเพศของวัยรุ่นถึงร้อยละ 10 ขณะที่พบหนองในเทียมในลำคอของกลุ่ม LGBTQ ที่ร้อยละ 1 ที่มีการทำออรัลเซ็กส์เป็นประจำ
- ซิฟิลิส ซิฟิลิสเป็นแผลริมแข็ง เชื้อซิฟิลิสเข้าทางเยื่อบุต่างๆ ได้ ดังนั้น การสัมผัสทางปากกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หัวนม ในคนที่มีแผลริมแข็ง มีเชื้อซิฟิลิส ก็สามารถติดเชื้อซิฟิลิสได้
- เริม ติดจากการสัมผัสผื่นเริม ดังนั้นจึงติดได้ทั้งฝ่าย รับ และฝ่ายรุก
- พยาธิ โดยเฉพาะพยาธิเส้นด้ายที่ชอบวางไข่รอบๆ ทวารหนัก ซึ่งอาจกระจายมาที่อวัยวะเพศ ดังนั้นผู้ทำ ออรัลเซ็กซ์ จึงอาจกลืนกินไข่พยาธิเส้นด้าย ไปเจริญเติบโตแพร่กระจายในลำไส้ใหญ่ และทวารหนักต่อได้
- ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสที่ว่าถูกปล่อยออกมาจำนวนมากพร้อมกับอุจจาระ ทำให้สามารถติดต่อทางออรัลเซ็กซ์ได้ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี
- เชื้อเอชพีวี (HPV) ซึ่งทำให้เกิดหูดหงอนไก่ในหลอดลม ทอนซิล และช่องปาก ก่อให้เกิดมะเร็งในช่องปาก ต่อมทอนซิล ลิ้น และคอได้อีกด้วย
ออรัลเซ็กส์ อย่างไรให้ปลอดภัย
- ต้องมั่นใจว่าคู่นอนของคุณไม่มีเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่ออื่นๆ
- ไม่ควรแปรงฟันก่อนการทำออรัลเซ็กส์ เพราะการแปรงฟันอาจทำให้เกิดบาดแผลตรงเหงือก และช่องปาก เปิดโอกาสในการรับเชื้อให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
- สวมทุกยางอนามัยแบบมีรสชาติ จะช่วยสร้างบรรยากาศในการทำรักผ่านออรัลเซ็กส์ที่ปลอดภัย
- ฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ ที่จัดฟัน เจาะลิ้น เจาะปาก ต้องระวังขดลวด หรือเหล็กเกี่ยวถุงยางอนามัย
- อย่าทาลิปมันขณะทำออรัลเซ็กส์ เพราะออยล์ที่เป็นส่วนผสมในลิปมัน อาจทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กส์ให้กับผู้ที่มี บาดแผล ตุ่มเล็กๆ หรือหูดเล็กๆ บริเวณอวัยวะเพศ เพราะลักษณะดังกล่าวเป็นอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถึงแม้จะใช้ถุงยางอนามัยแล้วก็ตามอาจจะไม่เพียงพอต่อการป้องกัน
ออรัลเซ็กส์ กับไวรัส HPV และมะเร็งในช่องปาก
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “การทำออรัลเซ็กส์” ไม่ได้เสี่ยงแค่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมโยงกับ ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ มะเร็งในช่องปากและลำคอ อีกด้วย ไวรัส HPV เป็นเชื้อที่ติดต่อผ่านการสัมผัสทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นช่องคลอด ทวารหนัก หรือช่องปาก โดยเฉพาะเมื่อมีการสัมผัสเยื่อบุโดยตรง เช่น การใช้ปากกับอวัยวะเพศที่มีเชื้อ HPV อยู่ แม้จะไม่มีแผลให้เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อก็ยังสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายได้
🔹 HPV คืออะไร?
HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ บางชนิดก่อให้เกิดเพียง “หูดหงอนไก่” ที่ผิวหนังหรืออวัยวะเพศ แต่บางสายพันธุ์ โดยเฉพาะ HPV สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ถือเป็นสายพันธุ์ “เสี่ยงสูง” ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องปาก และมะเร็งลำคอ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านการทำออรัลเซ็กส์ เชื้ออาจไปฝังตัวบริเวณ ลิ้น เพดานปาก ทอนซิล หรือด้านหลังลำคอ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตรวจพบมะเร็งชนิดนี้ได้บ่อยที่สุด
🔹 งานวิจัยยืนยันความเชื่อมโยง
ข้อมูลจาก New England Journal of Medicine ระบุว่า กว่า 50% ของมะเร็งในช่องปากและลำคอในผู้ใหญ่ เกี่ยวข้องกับเชื้อ HPV และในกลุ่มคนที่มีคู่นอนทางออรัลเซ็กส์มากกว่า 5 คนขึ้นไปโดยไม่ป้องกัน พบว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับคนทั่วไป นอกจากนี้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ยังพบว่า ผู้ชายมีโอกาสติดเชื้อ HPV ในลำคอมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะในผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และมีคู่นอนหลายคน
🔹 อาการเตือนของมะเร็งในช่องปากจาก HPV
ในระยะเริ่มต้น มักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่ควรสังเกตอาการดังนี้
- เจ็บคอหรือกลืนลำบากเรื้อรัง
- มีแผลในปากที่ไม่หายภายใน 2 สัปดาห์
- มีตุ่มนูนหรือก้อนบริเวณลิ้น เพดาน หรือทอนซิล
- เสียงแหบ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีกลิ่นปากผิดปกติ
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง เพราะการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีโอกาสรักษาหายสูงมาก
🔹 วิธีลดความเสี่ยง
แม้จะไม่มีวิธีใดป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีดังนี้
- ใช้ถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางบาง (Dental Dam) ระหว่างทำออรัลเซ็กส์ เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับเยื่อบุที่อาจมีเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กส์ กับผู้ที่มีตุ่ม แผล หรือผื่นบริเวณอวัยวะเพศ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งช่องปากในผู้ที่ติดเชื้อ HPV
- ฉีดวัคซีน HPV ซึ่งช่วยป้องกันสายพันธุ์เสี่ยงสูงได้หลายชนิด ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
ออรัลเซ็กส์ อาจดูเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยกว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ แต่ในความเป็นจริง หากไม่ป้องกัน ก็สามารถนำพาเชื้อ HPV เข้าสู่ร่างกายได้ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ มะเร็งในช่องปาก มะเร็งทอนซิล และมะเร็งลิ้น ได้ในระยะยาว ดังนั้น หากคุณและคู่ของคุณต้องการมีความสุขทางเพศอย่างปลอดภัย ควร ใช้ถุงยางทุกครั้ง, ตรวจสุขภาพช่องปากและคอเป็นประจำ, และ พิจารณาการฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจแฝงอันตรายในระยะยาว
อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- สัญญาณเตือน รู้ทัน เริมที่ปาก อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษาอย่างได้ผล
- หนองในเทียม (Chlamydia) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม
การทำรักด้วยปาก หรือออรัลเซ็กส์ แม้จะมีโอกาสเสี่ยงติดโรคน้อยกว่าการสอดใส่ผ่านอวัยวะเพศตามปกติ แต่ความเสี่ยงอาจไม่เป็นศูนย์ เพราะฉะนั้นหากจะมีกิจกรรมออรัลเซ็กส์ ดังกล่าวควรสวมถุงยางอนามัย มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนประจำไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะคุณไม่อาจรู้ได้ว่าเขามีเชื้ออะไรอยู่ ระวังกันหน่อยนะครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก:
ออรัลเซ็กส์เสี่ยงมั้ย – พญ.ชัญวลี ศรีสุโข
อมแล้วเจ็บคอ เจ็บคอหลังออรัลเซ็กซ์ เป็นอะไรไหม ควรทำยังไงดี
4 ท่าออรัลเซ็กซ์สุดเด็ด เพิ่มความเผ็ดให้ถึงสวรรค์แบบง่ายๆ

