ไขข้อสงสัย ตุ่ม PPE คืออะไร พร้อมวิธีการป้องกัน และดูแลผิวให้ปลอดภัย

ตุ่ม PPE

ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) อาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เลยในช่วงแรกของการติดเชื้อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลง จนเริ่มเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนหรือ โรคฉวยโอกาส ต่าง ๆ หนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยและเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง คือ ตุ่ม PPE (Pruritic Papular Eruption in HIV) หรือ “โรคตุ่มคันในผู้ติดเชื้อเอชไอวี” อาการนี้แม้จะไม่เป็นอันตรายโดยตรงต่อชีวิต แต่สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพภูมิคุ้มกันที่เสื่อมถอยได้ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น ความไม่สบายตัว ความเครียดจากการคันเรื้อรัง รวมถึงความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ทางสังคม จึงเป็นหัวข้อสำคัญที่ผู้ป่วยและคนรอบข้างควรเข้าใจอย่างถ่องแท้

Love2Test

ลักษณะของ ตุ่ม PPE

คือผื่นตุ่มคันที่พบได้บ่อยในผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะในรายที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำแล้ว ลักษณะของตุ่มมักคล้ายยุงหรือแมลงกัด มีรอยแดง บางครั้งอาจมีหนองหากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนหลังเกา และมักพบรอยดำหรือรอยแผลเป็นตามมา การปรากฏของ PPE ไม่ใช่เพียงผื่นผิวหนังธรรมดา แต่ถือเป็น “ดัชนีชีวภาพ” ที่สะท้อนว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลงจนเอื้อต่อการเกิดการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น

กลไกการเกิด PPE

สาเหตุที่ทำให้เกิด PPE ยังไม่ถูกอธิบายอย่างสมบูรณ์ แต่จากงานวิจัยทางการแพทย์พบว่าเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ได้แก่

Love2Test
  • การตอบสนองของภูมิคุ้มกันผิดปกติ: เมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายอาจตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น แมลง หรือสารก่อภูมิแพ้ มากกว่าปกติ
  • การอักเสบเรื้อรัง: การติดเชื้อเอชไอวีทำให้เกิดการอักเสบในระดับเซลล์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวหนังมีความไวและระคายเคืองง่าย
  • การติดเชื้อร่วม: แบคทีเรียหรือเชื้อราอาจเข้ามาซ้ำเติมหลังจากที่ผิวหนังเกิดรอยเกาหรือบาดแผลเล็ก ๆ
  • ความเกี่ยวพันกับระดับ CD4: มีรายงานว่าผู้ป่วยที่มีค่า CD4 ต่ำกว่า 200 เซลล์/ไมโครลิตร มักมีโอกาสพบ PPE ได้มากขึ้น

ลักษณะทางคลินิกของ PPE

อาการสำคัญที่สังเกตได้ คือ

  • ตุ่มคันสีแดงหรือนูน คล้ายยุงหรือแมลงกัด
  • มีการอักเสบ และอาจมีรอยเกาเป็นแผล
  • เกิดรอยดำหรือแผลเป็น หลังตุ่มยุบตัว
  • อาจพบหนอง หากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
  • ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ แขน ขา ลำตัว และบริเวณนอกร่มผ้า มากกว่าบริเวณใบหน้า
  • มีอาการเรื้อรัง ผู้ป่วยมักคันรุนแรงจนรบกวนการนอนหลับและชีวิตประจำวัน

ตุ่ม PPE ติดต่อได้ไหม ?

หลายคนอาจสงสัยว่า PPE เป็นโรคติดต่อหรือไม่ คำตอบคือ PPE ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ เชื้อเอชไอวี ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านทางเลือด สารคัดหลั่ง และการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ดังนั้น แม้การสัมผัสผิวหนังหรือผื่น PPE จะไม่ทำให้ติดเชื้อ แต่หากสัมผัสเลือด หนอง หรือแผลที่มีสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย แล้วเข้าทางบาดแผลของเรา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวีได้

หากไม่รักษาเอชไอวีจะเกิดอะไรขึ้น?

หากผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีแต่ไม่ได้รับการรักษา จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายในหลายด้าน ได้แก่

  • เชื้อไวรัสทำลายระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเซลล์ CD4
  • เกิดโรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรค ปอดบวม เชื้อราในช่องปาก
  • เสี่ยงโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น มะเร็งบางชนิด โรคหัวใจ และโรคไต
  • นำไปสู่ระยะเอดส์ (AIDS) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

การป้องกันการเกิดตุ่ม PPE

การป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือการดูแลสุขภาพโดยรวมและการป้องกันการเสื่อมของภูมิคุ้มกัน

  • ตรวจเอชไอวีสม่ำเสมอ เพื่อให้ทราบสถานะสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • เริ่มยาต้านไวรัสทันที หากตรวจพบเชื้อเอชไอวี
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์
  • ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • ดูแลสุขภาพผิว เช่น ไม่เกาจนเกิดบาดแผล และใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อป้องกันความแห้ง

แนวทางการรักษาตุ่ม PPE

การรักษา PPE มุ่งเน้นที่ การลดอาการคันและป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ควบคู่ไปกับการควบคุมเชื้อเอชไอวี

“PrEPLove2Test"
  • การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART): เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกันและลดโอกาสเกิด PPE
  • การใช้ยาแก้แพ้ (Antihistamine): ลดอาการคัน
  • การทายาสเตียรอยด์เฉพาะที่: ลดการอักเสบของผิวหนัง
  • การดูแลสุขภาพผิว: หลีกเลี่ยงการเกา ทาครีมบำรุงผิว ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ
  • การรักษาภาวะแทรกซ้อน: หากเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามดุลยพินิจของแพทย์

อย่างไรก็ตาม การรักษา PPE เป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากยังมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่

อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผลกระทบทางร่างกายและจิตใจจากการเป็น ตุ่ม PPE

แม้ว่าตุ่มนี้จะไม่ใช่โรคที่ทำให้เสียชีวิตโดยตรง แต่ก็สามารถส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม ซึ่งหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม อาจทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านผลกระทบ รายละเอียด ตัวอย่างผลที่เกิดขึ้น
ร่างกาย – อาการคันรุนแรง รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
– นอนไม่หลับจากอาการคันเรื้อรัง
– เกาจนเกิดบาดแผล เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
– ร่างกายอ่อนเพลียจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
– ต้องตื่นกลางคืนเพราะคันจนทนไม่ไหว
– มีแผลพุพองจากการเกา
– รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา
จิตใจ – ความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก เนื่องจากรอยดำและแผลเป็น
– ความเครียดและกังวลต่อสุขภาพ
– ภาวะซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นได้หากอาการเป็นเรื้อรังและไม่ดีขึ้น
– ไม่กล้าใส่เสื้อผ้าเปิดผิว
– หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
– รู้สึกสิ้นหวังหรือวิตกกังวลตลอดเวลา
สังคม – การถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง
– การถูกตีตราหรือเลือกปฏิบัติจากสังคม
– ความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคนรอบข้างอาจได้รับผลกระทบ
– เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด
– ถูกกีดกันจากกิจกรรมบางอย่าง
– เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกัน PPE และโรคฉวยโอกาสอื่น ๆ คือ การเข้ารับการรักษาเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง เพราะยาจะช่วยควบคุมระดับไวรัส ทำให้ภูมิคุ้มกันกลับมาแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน”

บทสรุป

PPE เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ลักษณะเป็นตุ่มคันเรื้อรัง มักมีรอยดำหรือแผลเป็นตามมา แม้ไม่เป็นอันตรายโดยตรง แต่ถือเป็นสัญญาณเตือนถึงการเสื่อมของภูมิคุ้มกัน การป้องกันที่ดีที่สุด คือการ ตรวจเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ เริ่มยาต้านไวรัสทันทีเมื่อพบเชื้อ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะนอกจากจะช่วยควบคุมโรคแล้ว ยังช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์ยืนยาว

อ้างอิงข้อมูลจาก:

↪︎ ตุ่ม HIV กับตุ่ม PPE ต่างกันอย่างไร วิธีสังเกตขึ้นที่ไหน?

↪︎ ตุ่ม PPE หรือตุ่มเอดส์ เมื่อเป็นแล้วควรดูแลตนเองอย่างไร?

↪︎ โรคเอดส์ (HIV/AIDS) ความรู้เรื่องอาการ ระยะ และการป้องกัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า