แม้ปัญหาการยอมรับคนข้ามเพศและเพศทางเลือกจะลดน้อยลงตามความเข้าใจที่ทำให้อคติของผู้คนค่อย ๆ จางหายไป แต่ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและการรักษาตนเองคนข้ามเพศก็ยังคงมีค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะแต่ก่อนนั้น อคติของผู้คนเห็นว่าคนข้ามเพศ “สามารถ” ที่จะกลับมาเป็นเพศเดิมได้ การดูแลคนข้ามเพศคือการส่งเสริมให้คนทำผิดขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นชุดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในอดีต
มุมมองของคนทั่วไปต่อการเทคฮอร์โมน
คนส่วนใหญ่มองว่าการ เทคฮอร์โมน หรือทำสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางเพศนั้นล้วนแล้วแต่เป็นในลักษณะเสริมความงามมากกว่าการดูแลรักษาด้วยวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมน ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยผู้มีความรู้ ความชำนาญการ และประสบการณ์ในการทำงาน ตามที่ได้มีการสำรวจประชากรหญิงข้ามเพศในประเทศไทย พบว่ามีมากกว่าสามแสนบุคคล ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลขที่ไม่น้อย (ส่วนสำหรับชายข้ามเพศ ยังเป็นปัญหาในการบันทึกจัดเก็บข้อมูลจำนวนประชากร)
ปัญหาที่พบเจอได้บ่อย
ปัญหาที่หลาย ๆ คนข้ามเพศต้องเจอคือการไม่สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลและพัฒนาตนเองได้ อีกทั้งกลุ่มหญิงข้ามเพศยังถือเป็นบุคคลกลุ่มเปราะบางต่อเชื้อ HIV จากอคติและการเลือกปฏิบัติของคนในชุมชน จนส่งผลให้พวกเธอเหล่านั้นเลือกที่จะไม่ไปตรวจสุขภาพหรือหลีกเลี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว และพลาดโอกาสในการดูแลป้องกันตนเอง นอกจากนี้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนข้ามเพศในประเทศไทยเท่านั้น โครงการเอดส์แห่งสหนานาชาติ (UNAIDS) ก็ยังชี้ให้เห็นว่าหญิงข้ามเพศทั่วโลกก็ประสบปัญหาจากอคติและการขาดแคลนองค์ความรู้ในการดูแลตัวเองเช่นเดียวกันกับในประเทศไทย
ปัจจุบันการให้ฮอร์โมนสำหรับคนข้ามเพศมีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพเป็นหลัก เช่น การปรับปรุงโครงสร้างของร่างกายให้ตรงตามสภาพจิตใจที่คนข้ามเพศมองว่าตนเองเป็น เพราะหลายคนเองมีปัญหาเกี่ยวกับการยอมรับเพศสภาพภายนอกของตนเองจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

เทคฮอร์โมนแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ?
การเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศจะช่วยให้สรีระเล็กลง ผิวหนังและเส้นขนตามร่างกายมีขนาดเล็กมากขึ้น เต้านมขยายใหญ่ขึ้น ขนาดของกล้ามเนื้อเล็กลง ส่วนในฝั่งของชายข้ามเพศนั้น การได้รับฮอร์โมนเพศชายจะทำให้ร่างกายปรับตามไปด้วย เช่น ทำให้ประจำเดือนลดน้อยลง ขนดกมากขึ้น เสียงทุ้มขึ้น กล้ามเนื้อขยายมากขึ้น ซึ่งเมื่อสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของคนข้ามเพศได้แล้ว จิตใจย่อมได้รับการเยียวยาไปด้วยจากปัญหาการไม่พอใจลักษณะเพศโดยตรงของตัวเองที่เคยเป็นมา
เรื่องที่ควรรู้ก่อนเทคฮอร์โมน
การเทคฮอร์โมนนั้นไม่สามารถทำได้โดยปราศจากความเข้าใจได้ เพราะฮอร์โมนส่งผลโดยตรงต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทั้งแต่ละบุคคลเองก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไปทั้งอายุ หรือปัจจัยร่วมอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้ฮอร์โมนกลายเป็นดาบสองคมขึ้นมาได้ เช่น โรคประจำตัวที่แฝงอยู่ในร่างกายของแต่ละคนและสามารถประทุขึ้นมาได้เพราะการให้ฮอร์โมน
การให้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศมีเป้าหมายหลักอยู่ 2 ประการ คือ
- เพื่อกดระดับของฮอร์โมนเพศเดิมในร่างกาย ซึ่งจะส่งผลให้ลดการแสดงออกของลักษณะทางเพศทุติยภูมิของเพศกำเนิด(secondary sex characteristics)
- เพื่อให้ร่างกายมีลักษณะเป็นไปตามเพศสภาพที่ต้องการ
การเริ่มใช้ฮอร์โมนข้ามเพศควรพิจารณาหลังจากได้รับการประเมินทางจิตสังคม(psychosocial assessment) โดยผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญ และมีการขอความยินยอม (informed consent)จากผู้รับบริการก่อน ทุกครั้ง โดยการพิจารณาต้องสอดคล้องตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- ได้รับการยืนยันว่ามีภาวะ gender dysphoria จริง
- มีความสามารถในการตัดสินใจและให้ความยินยอมในการรักษาได้
- อายุเข้าตามเกณฑ์ของแต่ละประเทศที่กำหนด
- หากมีโรคประจำตัวหรือโรคทางจิตเวชที่อาจส่งผลต่อการให้ฮอร์โมนควรรักษาให้สามารถควบคุมตัวโรคให้ดีก่อน เพราะการให้ฮอร์โมนอาจจะส่งผลกระทบต่อการรักษาและสภาพจิตใจที่เกิดขึ้นกับผู้รับการให้บริการได้
อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ผู้ให้บริการเองก็อาจจะพิจารณาถึงความเหมาะสมที่มากกว่าแค่หลักเกณฑ์ตามตัวอักษร หากเห็นควรว่าเหมาะแก่การใช้ฮอร์โมนผู้รับบริการก็ควรได้รับสิทธิ์ในการรักษาดังกล่าว ตรงนี้เองที่แสดงให้เป็นว่าบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญการจำเป็นแค่ไหนสำหรับการให้คำแนะนำด้านการใช้ฮอร์โมนสำหรับคนข้ามเพศ นอกจากนั้นช่วงอายุในการรับการเทคฮอร์โมนเองก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญเหมือนกันในการนำในพิจารณา เช่น หากเกิดกับหญิงข้ามเพศหรือชายข้ามเพศที่ยังเด็ก อยู่ในช่วงวัยรุ่นข้ามเพศ อาจจะต้องมีการทำความเข้าใจกันทั้งระหว่างตัวผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ ผู้ปกครอง และอาจจะมีการข้อความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย เช่น ฝั่งกุมารเวชศาสตร์ เพราะต้องคำนึงถึงผลของฮอร์โมนต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่นผลข้างเคียงต่อเซลล์สืบพันธุ์,การทำงานของสมองและพฤติกรรมรวมถึงการเปลี่ยนกลับความคิดต้องการกลับไปเป็นเพศกำเนิด ซึ่งอาจพบได้ในผู้รับบริการที่อายุน้อยมาก ๆ

เทคฮอร์โมนทำได้ที่ไหน ?
ปัจจุบันประเทศไทยเองมีหลายศูนย์คลินิกและการให้บริการด้านการเทคฮอร์โมนที่ถูกต้อง เช่น จากทางฟากฝั่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกหนึ่งสถานบริการที่เน้นย้ำถึงความปลอดภัยของการเทคฮอร์โมนและการดูแลคนข้ามเพศรวมไปถึงสถานคลินิกอื่น ๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่พร้อมจะดูแลให้คนข้ามเพศสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเหมือนกับบุคคลอื่นในสังคม
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่นี่
- พื้นที่ปลอดภัยต้องรอใครสร้างไหม
- Pride Month ความรัก ความสุขและเพศที่เท่าเทียม
- ผับเลสเบี้ยนแห่งแรกในเกาหลีใต้ กับกระแสการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมในการไม่เลือกปฏิบัติในเกาหลีใต้