ถุงยางรั่ว เรื่องใหญ่ที่ต้องใส่ใจ เรียนรู้วิธีการสังเกต และรับมืออย่างทันท่วงที

ถุงยางอนามัยรั่ว

หลายคนในที่นี้เมื่อคิดที่จะมีเพศสัมพันธ์ ก็ต้องป้องกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีคนที่กังวลว่า ถุงยางอนามัย ที่ใช้จะรั่ว หรือไม่ แล้วจะเสี่ยงต่อโรค หรือไม่ วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากครับ “ความจริงแล้วเปอร์เซ็นต์ที่ ถุงยางอนามัยรั่ว แทบจะไม่มีเลย” เนื่องจากถุงยางอนามัยถือว่าเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ต้องผ่านการรับรองคุณภาพจากองค์อาหาร และยา (อย.) และต้องผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ก่อนออกจำหน่าย กรณีที่เกิดการรั่วซึม หรือเสื่อมคุณภาพของถุงยางอนามัย จะเกิดได้หลายแบบ เช่น ทิ้งไว้นานจนหมดอายุ เก็บไว้ในที่ร้อนมากๆ หรือโดนแดด เป็นต้น

ถุงยางอนามัยรั่วอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ

  • ถุงยางอนามัยหมดอายุ
  • ถุงยางอนามัยไม่ได้ขนาด
  • ใส่ถุงยางอนามัยผิดวิธี
  • ถุงยางอนามัยถูกสัมผัสกับวัตถุมีคม หรือความร้อน
  • เก็บไว้ในที่ร้อนมากๆ หรือโดนแดด

วิธีสังเกต ถุงยางอนามัยรั่ว หรือไม่

ก่อนมีเพศสัมพันธ์ทำได้โดย เมื่อสวมถุงยางอนามัยเข้าไปแล้ว จะมีกระเปราะเล็กๆ อยู่ตรงปลาย ถ้าถุงยางอนามัยรั่ว เวลากดกระเปราะตรงปลาย จะยุบตัวแล้วไม่คืนสภาพเดิม แต่ถ้ากดตรงปลายแล้วกระเปาะคืนสภาพเดิม ก็แสดงว่าใช้ได้ จากนั้นเมื่อทดสอบเสร็จแล้ว ก็ควรบีบปลายกระเปาะ เพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยทำให้ถุงยางอนามัย ไม่รั่ว หรือแตกขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่ หรืออีกวิธีหนึ่งหลังจากเสร็จกิจแล้ว ให้ลองนำถุงยางอนามัยไปใส่น้ำ ถ้าน้ำซึมๆ ออกมาก็แสดงว่าถุงยางอนามัยรั่ว แต่ถ้าไม่มี ก็ถือว่าเราปลอดภัย ทั้งนี้ คุณก็ควรใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี ดังนี้

  • ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้งาน เพื่อไม่ให้เวลาใช้งานแล้วทำให้ถุงยางอนามัยรั่ว
  • หากถุงยางอนามัยหมดอายุแล้ว อย่านำมาใช้มีเพศสัมพันธ์เด็ดขาด คุณภาพของมันอาจทำให้เกิดปัญหาถุงยางอนามัยรั่ว หรือฉีกขาดได้ง่าย
  • การเลือกขนาดของถุงยางอนามัยให้เหมาะสมกับน้องชายก็เป็นสิ่งสำคัญ
  • ควรฉีกซองบรรจุถุงยางอนามัยอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้เล็บจิก หรืออุปกรณ์ที่มีคมแกะ
  • สวมถุงยางอนามัย ขณะที่อวัยวะเพศชายมีการแข็งตัวก่อนการมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยลดโอกาสการเกิดถุงยางอนามัยรั่ว ขณะใช้งานได้เกือบ 100%
  • บีบกระเปาะถุงยาง และค่อยๆ รูดถุงยางลงมา รูดถุงยางให้สุดๆ ถึงโคนอวัยวะเพศ
  • เมื่อมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้ว ให้ถอนอวัยวะเพศก่อนอ่อนตัว แล้วค่อยๆ รูดถุงยางอนามัยออก ทำการห่อถุงยางอนามัยให้มิดชิด และทิ้งลงทั้งขยะ

วิธีใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี

  1. ตรวจสอบวันหมดอายุ ของถุงยางอนามัย
  2. บีบส่วนปลายของถุงยางอนามัยเพื่อไล่อากาศออก
  3. สวมถุงยางอนามัยขณะที่อวัยวะเพศชายกำลังแข็งตัว
  4. รูดถุงยางอนามัยลงจนสุด
  5. ถอดถุงยางอนามัยออก หลังจากเสร็จกิจแล้ว

การเลือกขนาดถุงยางอนามัย

การเลือกขนาดของถุงยางอนามัย ควรเลือกให้พอดี ไม่หลวม หรือคับจนเกินไป เพราะจะทำให้ ถุงยางอนามัยรั่ว ฉีกขาดง่าย หรือถุงยางหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ตารางเทียบไซซ์ถุงยาง (มิลลิเมตร) รองรับ เส้นรอบวงของน้องชาย (เซนติเมตร) หรือ (นิ้ว) ดังต่อไปนี้

  • 49 มิลลิเมตร: รอบวงประมาณ 4.5 นิ้ว หรือ 11 – 12 เซนติเมตร
  • 52 มิลลิเมตร: รอบวงประมาณ 5 นิ้ว หรือ 12 – 13 เซนติเมตร
  • 54 มิลลิเมตร: รอบวงประมาณ 5.5 นิ้ว หรือ 13 – 14 เซนติเมตร
  • 56 มิลลิเมตร: รอบวงประมาณ 6 นิ้ว หรือ 14 – 15 เซนติเมตร

ประโยชน์ของถุงยางอนามัย

  • ป้องกันการตั้งครรภ์
  • ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ ซิฟิลิส เริม หนองใน เป็นต้น
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวี
  • ช่วยให้มีเพศสัมพันธ์ได้อย่างเพลิดเพลิน

วิธีป้องกันไม่ให้ ถุงยางอนามัยรั่ว

  • เลือกถุงยางอนามัยที่มีคุณภาพดี และมีอายุการใช้งานที่เหมาะสม
  • ตรวจสอบถุงยางอนามัยก่อนการใช้งาน หากพบว่ามีรอยรั่ว หรือฉีกขาด ไม่ควรนำมาใช้
  • สวมถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าถุงยางอนามัยอยู่ในสภาพที่ขยายตัวเต็มที่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสถุงยางอนามัยกับวัตถุมีคม หรือความร้อน

เพียงเท่านี้คุณก็มั่นใจได้แล้วว่าสิ่งที่น่ากังวลอย่างเรื่อง ถุงยางอนามัยรั่ว ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และจะปลอดภัยจากการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการตั้งครรภ์ครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า