ในปี 2565 และปี 2566 นี้ที่กำลังดำเนินต่อไป หลายครั้งที่เวทีการประกวดนางงามของ ผู้หญิงข้ามเพศ ถูกตั้งคำถามว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากน้อยขนาดไหน เมื่อนิยามความงามของผู้คนเปลี่ยนแปลง และพัฒนาต่อไป ตั้งแต่การที่ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง ไปจนถึงกระทั้งความสวยแบบไหนกันแน่ที่เป็นความสวยที่แท้จริง
หลายครั้งแล้วเรามักจะได้ยินคำว่า “พูดแล้วสวย” “ยิ้มสวย” “เดินแล้วทรงพลัง” แต่เมื่อผลการประกวดตัดสินออกมาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ก็อาจจะยังเกิดข้อพิพาทถึงความเหมาะสมของผู้เข้าประกวดแต่ละคนอยู่ดีว่าใครกันแน่ที่เหมาะสมกับมงกุฎมากที่สุด
คุณค่าของเวทีนางงาม ผู้หญิงข้ามเพศ
แม้คุณค่าของเวทีนางงามอาจจะเหลือเพียงแค่เป็นเวทีการประกวดเพื่อจุดประกายให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกเหนือจาก “แสง” ที่ผู้ชนะเลิศในการประกวดนั้นๆ จะได้รับ แมสเซจของเวทีเองก็จะสะท้อนออกมาผ่านผู้เข้าประกวดที่แต่ละเวทีคัดเลือกมานั้นเอง
Anilya Boro อาจไม่ได้รับมงกุฎจากการประกวดเวที Miss Trans NE ของอินเดียในปีนี้ แต่การแข่งขันในขณะที่มีพ่อแม่ของเธออยู่ที่นั่นเพื่อให้กำลังใจเธอนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นกับ ผู้หญิงข้ามเพศ คนหนึ่ง
“ฉันต้องพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้างในฐานะเด็กผู้หญิง” เด็กหญิงวัย 22 ปีกล่าว
“ฉันไม่ชนะการแข่งขัน แต่ฉันมีความสุขมากที่มีพ่อแม่คอยสนับสนุนฉัน ตอนนี้พวกเขายอมรับการตัดสินใจของฉันที่จะใช้ชีวิตแบบเด็กผู้หญิง และเข้ารับการผ่าตัด แต่พวกเขาไม่ต้องการให้ฉันเร่งรีบ” เธอกล่าวเพิ่มเติมขณะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกหลังได้รับการยอมรับจากครอบครัวที่เคยไม่เข้าใจเธอมาก่อนหน้านี้
ผู้เข้าแข่งขันมาจากรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ห่างไกลถึง 8 รัฐของอินเดีย บางคนอาศัยอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยในพื้นที่ที่ค่อนข้างไม่พัฒนาแต่เน้นการอนุรักษ์พื้นที่นิยมให้เหมือนกับแต่ก่อน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามตามลักษณะของบ้านเมืองที่ไม่มีการบุกรุก และขยายตัวไปยังพื้นที่ป่า
“การประกวดที่ผ่านมาส่งเสริมความงาม และเอกลักษณ์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และความภาคภูมิใจของชุมชนความหลากหลายทางเพศเพื่อยกระดับชุมชนคนข้ามเพศทั้งหมด” Ajan Akash Barauah ผู้จัดงานกล่าว
องค์กรที่สนับสนุน ผู้หญิงข้ามเพศ ในการประกวดนางงาม
มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการประกวดโดยไม่มีเงินทุนจากบริษัท Barauah หันไปหาเพื่อน และองค์กรที่สนับสนุนคนข้ามเพศเพื่อเป็นทุนในการประกวด โดยชนกลุ่มน้อยทางเพศทั่วอินเดียได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ และคนข้ามเพศได้รับการรับรองสิทธิเท่าเทียมกันในฐานะเพศที่สามในปี 2557 แต่อคติยังคงมีอยู่ และชุมชนยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ และการปฏิเสธจากครอบครัวของพวกเขา พวกเขามักถูกปฏิเสธงาน การศึกษา และการดูแลสุขภาพ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากที่สังคมภายนอกยอมรับ
Barauah อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของอินเดียเป็นเวลา 13 ปีในฐานะนักออกแบบแฟชั่น และย้ายไปอยู่ที่เมือง Guwahati บ้านเกิดของเธอในรัฐอัสสัมทางตะวันออกเฉียงเหนือหลังจากเกิดโรคระบาด COVID-19 ในประเทศอินเดีย เธอได้รับตำแหน่ง Trans Queen ในปี 2014 ในการประกวดที่จัดขึ้นในเมือง Vishakhapatnam ทางตอนใต้ และต่อมาก็ตัดสินใจช่วยเหลือชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“การประกวด Miss Trans NE ในวันที่ 30 พฤศจิกายน จัดขึ้นสำหรับ (ผู้ที่) ระบุตัวเองว่าเป็นผู้หญิงเท่านั้น ปีหน้า จะรวมชายข้ามเพศด้วย” บาเราะห์กล่าว
โบโรยังคงมองโลกในแง่ดี ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส Aikon Boro แม่ของเธอกล่าวว่า Anilya สวมเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงเท่านั้นตั้งแต่เธออายุ 6 หรือ 7 ขวบ และเธอกล่าวว่ารู้สึกสบายตัวที่สุดเมื่ออยู่ในชุดเหล่านั้น
“ทุกคนในครอบครัวพยายามเปลี่ยนนิสัย และพฤติกรรมของเธอ แต่เธอไม่ฟัง ตอนนี้สมาชิกในครอบครัวยอมรับเธอว่าเป็นคนข้ามเพศแล้ว” เธอกล่าว และยิ้มด้วยความภาคภูมิใจกับการตัดสินใจของตนเอง
รางวัลสูงสุดของ Miss Trans NE ตกเป็นของ Lucey Ham จาก Itanagar ในรัฐอรุณาจัลประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับจีน ขณะที่ Aria Deka และ Rishidhya Sangkarishan จากรัฐอัสสัมทางตะวันออกเฉียงเหนือไกลทั้งคู่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ “ฉันดีใจอย่างท่วมท้น ฉันไม่มีอะไรจะพูด ฉันจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉัน” แฮมกล่าวหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่งผู้ชนะ
ความตระหนักรู้เกี่ยวกับ ผู้หญิงข้ามเพศ
การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับคนข้ามเพศ และการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิของพวกเขาคือสิ่งที่ทำให้ Barauah มีส่วนร่วมในงานนี้ “พวกเขาควรรู้เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศในทุกที่ แม้ว่าคุณจะไปที่สำนักงาน โรงแรม หรือห้องน้ำสาธารณะ คุณก็มีสิทธิ์ที่จะขอสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม” บาเราะห์กล่าว
เป็นเรื่องน่ายินดีที่เรามีพื้นที่ให้คนข้ามเพศได้ออกมารับ “แสง” ที่พวกเขาเองก็ควรจะได้รับเหมือนเวทีการประกวดอื่นๆ ทั่วไป เพื่อที่จะได้เป็นกระบอกเสียงให้กับคนกลุ่มเดียวกันกับพวกเขา คนชายขอบ และเพื่อนในชุมชนที่เผชิญหน้ากับอคติทางเพศ จากทั้งครอบครัว และสังคมโดยปราศจากการพยายามทำความเข้าใจกัน และกัน
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่ง เราอาจจะได้เห็นพวกเธอเหล่านั้นในเวทีที่แต่ก่อนมอบสิทธิในการประกวดให้แก่สตรีที่มีเพศสภาพสตรีตั้งแต่กำเนิด แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปก็ดูเหมือนนิยามเหล่านั้นจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้หญิงไม่ว่าจะก้าวเข้ามาเป็นผู้หญิงตอนไหน พวกเธอก็คือสตรีคนหนึ่งที่ปรารถนาอยากจะมีชีวิตเหมือนผู้หญิงทั่วไปก็เท่านั้นเอง
ข้อมูลอ้างอิง: EURO NEWS