เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศอนุมัติยา Yeztugo® ซึ่งมีชื่อสามัญว่า Lenacapavir ที่พัฒนาโดยบริษัท Gilead Sciences ให้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หรือ ยา PrEP แบบฉีด ทุก 6 เดือน ตัวแรกและตัวเดียวในโลก! นับเป็นก้าวสำคัญทางการแพทย์ที่ทั่วโลกจับตามอง การอนุมัตินี้อิงจากผลการศึกษาในระดับนานาชาติ ซึ่งยืนยันว่า Lenacapavir มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV สูงถึง 99.9% โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) หรือในคู่ที่มีผลเลือดต่าง เป็นต้น ซึ่ง PrEP แบบดั้งเดิมนั้น ผู้ใช้งานต้องรับประทานทุกวันอย่างต่อเนื่อง แม้จะได้ผลดี แต่หลายคนพบปัญหาในการกินยา ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ แต่ในปีนี้ โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย ยา PrEP แบบฉีด ที่ฉีดเข้าร่างกาย เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น!
ยุคใหม่ของการป้องกัน HIV: จากยากินสู่ ยา PrEP แบบฉีด
ยา PrEP แบบฉีด Lenacapavir คืออะไร?
Yeztugo® คือชื่อการค้าของ Lenacapavir (เลนาคาพาเวียร์) เป็นยาต้านไวรัสกลุ่มใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Gilead Sciences ซึ่งทำงานโดยการยับยั้งโปรตีนสำคัญที่ไวรัสเอชไอวีใช้ในการจำลองตัวเอง ยานี้เป็น “Capsid Inhibitor” ตัวแรกในโลก! ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการป้องกันเชื้อ HIV ซึ่งแตกต่างจาก PrEP แบบเดิมที่มักยับยั้งเอนไซม์ (เช่น Reverse Transcriptase หรือ Integrase) แต่ Lenacapavir เล็งเป้าไปที่โครงสร้างของไวรัสโดยตรง จึงถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการยาต้านไวรัส
Capsid inhibitor คือ ยาต้านไวรัสที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ Capsid ซึ่งเป็นโครงสร้างโปรตีนที่ห่อหุ้มสารพันธุกรรมของ HIV และมีบทบาทสำคัญหลายอย่างในกระบวนการเพิ่มจำนวนของไวรัสภายในร่างกายมนุษย์ Capsid เปรียบเหมือน “เปลือกหุ้มแกนกลางของไวรัส” ซึ่งทำหน้าที่สำคัญ เช่น:
- ปกป้อง RNA ของไวรัส
- ช่วยให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์มนุษย์ได้
- เกี่ยวข้องกับการจำลองตัวเองของไวรัส
แล้ว Capsid inhibitor ทำงานอย่างไร?
- ยับยั้งกระบวนการที่ HIV ใช้ในการห่อหุ้มสารพันธุกรรม (ทำให้ไวรัสอ่อนแอ)
- ขัดขวางการปล่อยสารพันธุกรรมเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย
- รบกวนการประกอบตัวของไวรัสใหม่
- เมื่อ Capsid ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไวรัสจะไม่สามารถแพร่กระจาย หรือติดเชื้อเพิ่มในร่างกายได้
จุดเด่นของ ยา PrEP แบบฉีด
1. ฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง
PrEP แบบฉีด มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ยาวนานถึง 6 เดือน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถเข้ารับการฉีดยา เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ต่างจากยา PrEP แบบกินที่ต้องทานทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลในการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ความถี่ในการฉีดที่น้อยลง ช่วยลดความยุ่งยากในการวางแผนชีวิต และช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตนเองได้อย่างมั่นใจในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องลืมกินยา นอกจากนี้ ยังเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตไม่สม่ำเสมอ เช่น นักเดินทาง คนทำงานกะดึก หรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงยาได้สะดวกทุกวัน
2. ลดภาระการกินยา
หนึ่งในปัญหาหลักของการใช้ยา PrEP แบบกิน คือ “การลืมกินยา” หรือ “รู้สึกเบื่อหน่าย” กับการต้องกินยาเป็นประจำทุกวัน แม้ว่ายาแบบกินจะมีประสิทธิภาพสูง แต่การเว้นกินเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถลดประสิทธิภาพในการป้องกันได้ทันที Lenacapavir ซึ่งเป็น PrEP แบบฉีด จึงกลายเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกินยาได้อย่างต่อเนื่อง หรือเคยหยุดยาไปกลางคัน เพราะการฉีดเพียง 2 ครั้งต่อปี ช่วยลดความยุ่งยาก ลดความเครียดจากการกินยา และยังลดความเสี่ยง จากการเกิดผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพบได้ในบางคนที่ใช้ยาแบบกิน
3. เพิ่มการยอมรับในกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับบางคน การพกยา PrEP แบบกินอาจทำให้รู้สึกไม่สะดวก หรือเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยสถานะทางสุขภาพและพฤติกรรมทางเพศโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกตีตราหรือเลือกปฏิบัติในบางบริบท โดยเฉพาะในชุมชนที่ยังมีความเข้าใจเรื่อง HIV และ PrEP ไม่มากนัก PrEP แบบฉีด จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่มีความจำเป็นต้องพกยาติดตัว และไม่มีหลักฐานที่สามารถสังเกตเห็นได้เหมือนยาเม็ด การเข้ารับการฉีดยาเพียง 2 ครั้งต่อปีในสถานพยาบาลยังสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องเปิดเผยต่อผู้อื่นในชีวิตประจำวัน จึงส่งเสริมการยอมรับและเข้าถึงของผู้มีความเสี่ยงหลากหลายกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น
4. ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Lenacapavir ได้รับการทดลองในโครงการวิจัยขนาดใหญ่ เช่น PURPOSE 1 และ PURPOSE 2 ซึ่งดำเนินการในประเทศต่าง ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา เคนยา และแอฟริกาใต้ โดยมีการศึกษาประสิทธิภาพของ PrEP แบบฉีด ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และกลุ่มคนข้ามเพศหญิง
“ผลการศึกษาระบุว่า Lenacapavir สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 99.9% หากฉีดตามรอบที่กำหนด และไม่พบปัญหาเรื่องการดื้อยาในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลอง โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถทนต่อยานี้ได้ดี อาการข้างเคียงที่พบมักมีเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน”
ประสิทธิภาพสูงของยา Lenacapavir ทำให้หลายประเทศเริ่มหารือเรื่องการบรรจุยา PrEP แบบฉีดนี้ไว้ในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการยุติการติดเชื้อ HIV รายใหม่ในอนาคต
กลุ่มเป้าหมายของ ยา PrEP แบบฉีด
PrEP แบบฉีด Lenacapavir เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ซึ่งรวมถึง:
- ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- บุคคลข้ามเพศที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย
- ผู้ที่มีคู่ที่ติดเชื้อ HIV และยังไม่สามารถควบคุมไวรัสได้
- ผู้ใช้สารเสพติดทางเข็มฉีดยา
- ผู้ที่เคยใช้ยา PEP บ่อยครั้ง
การเลือกใช้ PrEP แบบฉีด เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้รับบริการและบุคลากรทางการแพทย์ โดยพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ ความสะดวกในการเข้ารับบริการ และความต่อเนื่องของการใช้ยา
ขั้นตอนการรับ ยา PrEP แบบฉีด
การเริ่มต้นใช้ Lenacapavir ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจของผู้รับบริการเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการประเมินอย่างรอบด้านจากบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมสุขภาพ โดยกระบวนการมีขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้:
1. การประเมินความเสี่ยง
ในขั้นแรก ผู้ใช้จะต้องพูดคุยกับแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สถานพยาบาล เพื่อประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ซึ่งรวมถึง:
- พฤติกรรมทางเพศในช่วงที่ผ่านมา
- การใช้สารเสพติด
- ประวัติการใช้ยา PrEP หรือ PEP
- การมีคู่นอนที่ติดเชื้อ HIV หรือไม่ทราบสถานะ
การประเมินนี้ ไม่เพียงช่วยคัดกรองว่าผู้รับบริการเหมาะสมกับ PrEP แบบฉีด หรือไม่ แต่ยังเป็นโอกาสในการพูดคุยเกี่ยวกับทางเลือกอื่น เช่น PrEP แบบกิน หรือการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง
2. การตรวจคัดกรองเอชไอวี
ก่อนรับการฉีดยา Lenacapavir ทุกครั้ง โดยเฉพาะก่อนเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องได้รับการตรวจ HIV และต้องมี “ผลเป็นลบเท่านั้น” จึงจะสามารถฉีดยาได้
เหตุผลสำคัญคือ: หากผู้ใช้ติดเชื้อ HIV อยู่โดยไม่รู้ตัว และได้รับ PrEP แบบฉีด อาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องการดื้อยาต้าน เพราะ Lenacapavir ไม่ใช่ยาสำหรับการรักษา HIV แต่ใช้สำหรับการป้องกันเท่านั้น การตรวจ HIV ที่ใช้ได้อาจเป็นแบบ Antigen/Antibody, NAT หรือ Rapid Test ที่ให้ผลแม่นยำในระยะเวลาที่เหมาะสมตาม ระยะฟักตัว (Window Period)
3. การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
นอกจากการตรวจ HIV แล้ว ผู้ใช้ยา PrEP แบบฉีดยังควรได้รับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) อื่น ๆ ที่มักพบร่วมกัน เช่น:
- ซิฟิลิส (Syphilis)
- หนองในแท้และหนองในเทียม (Gonorrhea and Chlamydia)
- เริม (Herpes Simplex Virus)
- ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี (HBV and HCV)
การตรวจเหล่านี้ไม่เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมการระบาดของโรคในระดับสาธารณสุขด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง
4. เริ่มต้นฉีดเข็มแรก
หากผู้รับบริการผ่านขั้นตอนทั้งหมด ไม่มีผลตรวจบวก และไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ เช่น โรคตับเรื้อรัง, ภูมิแพ้ส่วนประกอบของยา หรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ แพทย์จะดำเนินการฉีด Lenacapavir เข็มแรก ยานี้มักฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง บริเวณหน้าท้อง หรือต้นขา ซึ่งไม่จำเป็นต้องฉีดเข้ากล้ามลึก เหมือนยาบางชนิด ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักรายงานว่ารู้สึกเจ็บน้อยกว่าที่คาดไว้ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังฉีด
5. การติดตามผล
ยา PrEP แบบฉีดออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 6 เดือน แต่ก่อนจะได้รับการฉีดเข็มถัดไป ผู้ใช้จะต้องกลับมาตรวจ HIV ซ้ำทุกครั้ง เพื่อยืนยันว่ายังไม่ติดเชื้อ ก่อนรับยาอีกเข็ม นอกจากนี้ แพทย์อาจตรวจสุขภาพโดยรวม เช่น การทำงานของตับ, ไต และตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตามรอบการติดตามที่แนะนำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน ไม่ใช่เพียงการฉีดยาเท่านั้น
ข้อควรทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพร็พแบบฉีด
- ฉีดเข็มแรกใต้ผิวหนัง ร่วมกับการรับประทานยาเม็ดในช่วงเริ่มต้น เพื่อสร้างระดับยาในร่างกายอย่างรวดเร็ว
- จากนั้น ฉีดซ้ำทุก 26 สัปดาห์ หรือประมาณทุก 6 เดือน
- หากผู้ใช้ ไม่สามารถมาตามนัดฉีดยาได้ตามกำหนด แพทย์สามารถสั่งยาแบบเม็ด เพื่อใช้ชั่วคราวทดแทน จนถึงนัดฉีดครั้งถัดไป
- หากผู้ใช้ลืมมาตามนัดฉีดอีกครั้ง อาจต้องทำการตรวจซ้ำ และชะลอการฉีดใหม่ออกไปตามดุลยพินิจของแพทย์
- ไม่ควรรับ Lenacapavir หากกำลังสงสัยว่าติดเชื้อ HIV หรือมีอาการของการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน เช่น ไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต
- หากผู้ใช้ต้องการหยุดใช้ Lenacapavir ควรแจ้งแพทย์ เพื่อพิจารณาการใช้ PrEP รูปแบบอื่นหรือแนวทางป้องกันแบบผสมผสาน
ยา PrEP แบบฉีด กับยา PrEP แบบกิน: อะไรเหมาะกับคุณ?
คุณสมบัติ | ยา PrEP แบบกิน | ยา PrEP แบบฉีด |
---|---|---|
ความถี่ | ทุกวัน | ปีละ 2 ครั้ง |
การลืมใช้ยา | เสี่ยงต่อการลืม | ไม่ต้องกังวลเรื่องลืม |
การออกฤทธิ์ | ขึ้นอยู่กับการกินต่อเนื่อง | ครอบคลุม 6 เดือนเต็ม |
ผลข้างเคียง | มีในบางราย เช่น คลื่นไส้ | ยังไม่พบผลร้ายแรงในวงกว้าง |
ความเป็นส่วนตัว | ต้องพกยา | ไม่ต้องพกยาในชีวิตประจำวัน |
ยา PrEP แบบฉีดในบริบทประเทศไทย
แม้ในประเทศไทยจะมีบริการฉีดยาเพร็พแล้ว แต่เป็นยาตัวเดิมที่ต้องได้รับการฉีดทุก ๆ 2 เดือน ซึ่งขณะนี้ Lenacapavir ยังไม่ได้รับอนุมัติในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ แต่การมาของยานี้ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการปรับปรุงแนวทาง การป้องกัน HIV ของไทยในอนาคต ประเทศไทยมีกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับ PrEP แบบฉีด เช่น กลุ่มชายรักชายในเมืองใหญ่ กลุ่มคนทำงานบริการ และกลุ่มเยาวชน LGBTQ+ ที่อาจเข้าถึงยาแบบกินได้ยากจากเหตุผลทางสังคมและครอบครัว องค์กรที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจมีบทบาทในการผลักดันให้ Lenacapavir ถูกนำเข้ามาทดลองใช้ในระยะเริ่มต้น เพื่อประเมินผลต่อคนไทยโดยเฉพาะ ทุกวันนี้ แม้จะมีความรู้และเครื่องมือป้องกันที่ก้าวหน้า แต่การติดเชื้อ HIV รายใหม่ยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่เข้าไม่ถึงบริการหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงซ้ำซ้อน การมาของ PrEP แบบฉีดอย่าง Lenacapavir ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาตัวใหม่ แต่คือสัญลักษณ์ของความหวังที่จับต้องได้ ยิ่งสามารถกระจายการเข้าถึงยา PrEP ได้ครอบคลุมเท่าไร ยิ่งสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดยา PrEP
☞ ไม่สามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ได้ เช่น หนองใน ซิฟิลิส หรือไวรัสตับอักเสบ การใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ยังคงเป็นวิธีป้องกันกามโรคได้ดีที่สุด
☞ Lenacapavir ไม่มีปฏิกิริยาต่อฮอร์โมนเพศหรือยาคุมกำเนิด และสามารถใช้ร่วมกับยารักษาโรคเรื้อรังอื่น ๆ ได้หลายชนิด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
☞ ได้ หากผ่านการประเมินโดยแพทย์และไม่มีข้อห้าม PrEP แบบฉีด Lenacapavir เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เคยและไม่เคยใช้ PrEP มาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสะดวกและความต่อเนื่องในการป้องกัน
☞ ก่อนฉีดต้องตรวจ HIV (ต้องมีผลลบ) และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม และไวรัสตับอักเสบบีและซี
☞ ในช่วงเริ่มต้น (หลังเข็มแรก) แพทย์อาจแนะนำให้ ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยประมาณ 7–14 วัน จนกว่ายาจะเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ และแนะนำตรวจ HIV ก่อนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- PrEP แบบฉีด ในไทยมีให้ใช้หรือยัง? หาคำตอบได้ที่นี่!
- สปสช. ยกระดับสิทธิสุขภาพ เพิ่มยา PrEP ป้องกันเอชไอวี
บทสรุป
การมาถึงของ PrEP แบบฉีด อย่าง Lenacapavir (ชื่อการค้า: Yeztugo®) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการป้องกันเชื้อเอชไอวีในระดับโลก จากการฉีดเพียง ปีละ 2 ครั้ง ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดภาระในการกินยาทุกวัน และเสริมความสะดวกในการเข้าถึงสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลาหรือวิถีชีวิต การได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ไม่เพียงแสดงถึงความก้าวหน้าเชิงวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเปิดประตูสู่ความหวังใหม่ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง และยังเข้าไม่ถึงบริการ PrEP แบบเดิม แม้ประเทศไทยยังไม่ได้บรรจุยา Lenacapavir เข้าสู่ระบบบริการสุขภาพอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยผลการวิจัยที่น่าประทับใจและความต้องการในกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เราอาจได้เห็น PrEP แบบฉีด กลายเป็นเครื่องมือหลักในการยุติการแพร่ระบาดของเอชไอวีในอนาคตอันใกล้นี้
อ้างอิงข้อมูลจาก:
Yeztugo® (Lenacapavir) Is Now the First and Only FDA-Approved HIV Prevention Option Offering 6 Months of Protection
FDA Approves a Twice-Yearly Shot to Prevent HIV
- https://time.com/7295343/fda-hiv-shot-lenacapavir-yeztugo
US FDA approves Gilead’s twice-yearly injection for HIV prevention
- www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/us-fda-approves-gileads-twice-yearly-injection-hiv-prevention-2025-06-18