FDA อนุมัติ Lenacapavir ยา PrEP แบบฉีด ปีละ 2 ครั้ง ป้องกัน HIV

FDA อนุมัติ Lenacapavir ยา PrEP แบบฉีด ปีละ 2 ครั้ง ป้องกัน HIV ได้จริง

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศอนุมัติยา Yeztugo® ซึ่งมีชื่อสามัญว่า Lenacapavir ที่พัฒนาโดยบริษัท Gilead Sciences ให้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หรือ ยา PrEP แบบฉีด ทุก 6 เดือน ตัวแรกและตัวเดียวในโลก! นับเป็นก้าวสำคัญทางการแพทย์ที่ทั่วโลกจับตามอง การอนุมัตินี้อิงจากผลการศึกษาในระดับนานาชาติ ซึ่งยืนยันว่า Lenacapavir มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV สูงถึง 99.9% โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) หรือในคู่ที่มีผลเลือดต่าง เป็นต้น ซึ่ง PrEP แบบดั้งเดิมนั้น ผู้ใช้งานต้องรับประทานทุกวันอย่างต่อเนื่อง แม้จะได้ผลดี แต่หลายคนพบปัญหาในการกินยา ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ แต่ในปีนี้ โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย ยา PrEP แบบฉีด ที่ฉีดเข้าร่างกาย เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น!

ยุคใหม่ของการป้องกัน HIV: จากยากินสู่ ยา PrEP แบบฉีด

ยา PrEP แบบฉีด Lenacapavir Yeztugo

Love2Test

ยา PrEP แบบฉีด Lenacapavir คืออะไร?

Yeztugo® คือชื่อการค้าของ Lenacapavir (เลนาคาพาเวียร์) เป็นยาต้านไวรัสกลุ่มใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Gilead Sciences ซึ่งทำงานโดยการยับยั้งโปรตีนสำคัญที่ไวรัสเอชไอวีใช้ในการจำลองตัวเอง ยานี้เป็น “Capsid Inhibitor” ตัวแรกในโลก! ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการป้องกันเชื้อ HIV ซึ่งแตกต่างจาก PrEP แบบเดิมที่มักยับยั้งเอนไซม์ (เช่น Reverse Transcriptase หรือ Integrase) แต่ Lenacapavir เล็งเป้าไปที่โครงสร้างของไวรัสโดยตรง จึงถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการยาต้านไวรัส

Capsid inhibitor คือ ยาต้านไวรัสที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ Capsid ซึ่งเป็นโครงสร้างโปรตีนที่ห่อหุ้มสารพันธุกรรมของ HIV และมีบทบาทสำคัญหลายอย่างในกระบวนการเพิ่มจำนวนของไวรัสภายในร่างกายมนุษย์ Capsid เปรียบเหมือน “เปลือกหุ้มแกนกลางของไวรัส” ซึ่งทำหน้าที่สำคัญ เช่น:

  • ปกป้อง RNA ของไวรัส
  • ช่วยให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์มนุษย์ได้
  • เกี่ยวข้องกับการจำลองตัวเองของไวรัส

แล้ว Capsid inhibitor ทำงานอย่างไร?

  • ยับยั้งกระบวนการที่ HIV ใช้ในการห่อหุ้มสารพันธุกรรม (ทำให้ไวรัสอ่อนแอ)
  • ขัดขวางการปล่อยสารพันธุกรรมเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย
  • รบกวนการประกอบตัวของไวรัสใหม่
  • เมื่อ Capsid ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไวรัสจะไม่สามารถแพร่กระจาย หรือติดเชื้อเพิ่มในร่างกายได้

จุดเด่นของ ยา PrEP แบบฉีด

Lenacapavir ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง

PrEP แบบฉีด มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ยาวนานถึง 6 เดือน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถเข้ารับการฉีดยา เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ต่างจากยา PrEP แบบกินที่ต้องทานทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลในการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ความถี่ในการฉีดที่น้อยลง ช่วยลดความยุ่งยากในการวางแผนชีวิต และช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตนเองได้อย่างมั่นใจในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องลืมกินยา นอกจากนี้ ยังเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตไม่สม่ำเสมอ เช่น นักเดินทาง คนทำงานกะดึก หรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงยาได้สะดวกทุกวัน

2. ลดภาระการกินยา

หนึ่งในปัญหาหลักของการใช้ยา PrEP แบบกิน คือ “การลืมกินยา” หรือ “รู้สึกเบื่อหน่าย” กับการต้องกินยาเป็นประจำทุกวัน แม้ว่ายาแบบกินจะมีประสิทธิภาพสูง แต่การเว้นกินเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถลดประสิทธิภาพในการป้องกันได้ทันที Lenacapavir ซึ่งเป็น PrEP แบบฉีด จึงกลายเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกินยาได้อย่างต่อเนื่อง หรือเคยหยุดยาไปกลางคัน เพราะการฉีดเพียง 2 ครั้งต่อปี ช่วยลดความยุ่งยาก ลดความเครียดจากการกินยา และยังลดความเสี่ยง จากการเกิดผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพบได้ในบางคนที่ใช้ยาแบบกิน

3. เพิ่มการยอมรับในกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับบางคน การพกยา PrEP แบบกินอาจทำให้รู้สึกไม่สะดวก หรือเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยสถานะทางสุขภาพและพฤติกรรมทางเพศโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกตีตราหรือเลือกปฏิบัติในบางบริบท โดยเฉพาะในชุมชนที่ยังมีความเข้าใจเรื่อง HIV และ PrEP ไม่มากนัก PrEP แบบฉีด จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่มีความจำเป็นต้องพกยาติดตัว และไม่มีหลักฐานที่สามารถสังเกตเห็นได้เหมือนยาเม็ด การเข้ารับการฉีดยาเพียง 2 ครั้งต่อปีในสถานพยาบาลยังสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องเปิดเผยต่อผู้อื่นในชีวิตประจำวัน จึงส่งเสริมการยอมรับและเข้าถึงของผู้มีความเสี่ยงหลากหลายกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น

4. ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Lenacapavir ได้รับการทดลองในโครงการวิจัยขนาดใหญ่ เช่น PURPOSE 1 และ PURPOSE 2 ซึ่งดำเนินการในประเทศต่าง ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา เคนยา และแอฟริกาใต้ โดยมีการศึกษาประสิทธิภาพของ PrEP แบบฉีด ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และกลุ่มคนข้ามเพศหญิง

“ผลการศึกษาระบุว่า Lenacapavir สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 99.9% หากฉีดตามรอบที่กำหนด และไม่พบปัญหาเรื่องการดื้อยาในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลอง โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถทนต่อยานี้ได้ดี อาการข้างเคียงที่พบมักมีเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน”

ประสิทธิภาพสูงของยา Lenacapavir ทำให้หลายประเทศเริ่มหารือเรื่องการบรรจุยา PrEP แบบฉีดนี้ไว้ในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการยุติการติดเชื้อ HIV รายใหม่ในอนาคต

กลุ่มเป้าหมาย PrEP แบบฉีด

กลุ่มเป้าหมายของ ยา PrEP แบบฉีด

PrEP แบบฉีด Lenacapavir เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ซึ่งรวมถึง:

  • ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
  • ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • บุคคลข้ามเพศที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย
  • ผู้ที่มีคู่ที่ติดเชื้อ HIV และยังไม่สามารถควบคุมไวรัสได้
  • ผู้ใช้สารเสพติดทางเข็มฉีดยา
  • ผู้ที่เคยใช้ยา PEP บ่อยครั้ง

การเลือกใช้ PrEP แบบฉีด เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้รับบริการและบุคลากรทางการแพทย์ โดยพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ ความสะดวกในการเข้ารับบริการ และความต่อเนื่องของการใช้ยา

ขั้นตอนการรับ ยา PrEP แบบฉีด

การเริ่มต้นใช้ Lenacapavir ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจของผู้รับบริการเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการประเมินอย่างรอบด้านจากบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมสุขภาพ โดยกระบวนการมีขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้:

1. การประเมินความเสี่ยง

ในขั้นแรก ผู้ใช้จะต้องพูดคุยกับแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สถานพยาบาล เพื่อประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ซึ่งรวมถึง:

  • พฤติกรรมทางเพศในช่วงที่ผ่านมา
  • การใช้สารเสพติด
  • ประวัติการใช้ยา PrEP หรือ PEP
  • การมีคู่นอนที่ติดเชื้อ HIV หรือไม่ทราบสถานะ

การประเมินนี้ ไม่เพียงช่วยคัดกรองว่าผู้รับบริการเหมาะสมกับ PrEP แบบฉีด หรือไม่ แต่ยังเป็นโอกาสในการพูดคุยเกี่ยวกับทางเลือกอื่น เช่น PrEP แบบกิน หรือการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง

2. การตรวจคัดกรองเอชไอวี

ก่อนรับการฉีดยา Lenacapavir ทุกครั้ง โดยเฉพาะก่อนเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องได้รับการตรวจ HIV และต้องมี “ผลเป็นลบเท่านั้น” จึงจะสามารถฉีดยาได้

เหตุผลสำคัญคือ: หากผู้ใช้ติดเชื้อ HIV อยู่โดยไม่รู้ตัว และได้รับ PrEP แบบฉีด อาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องการดื้อยาต้าน เพราะ Lenacapavir ไม่ใช่ยาสำหรับการรักษา HIV แต่ใช้สำหรับการป้องกันเท่านั้น การตรวจ HIV ที่ใช้ได้อาจเป็นแบบ Antigen/Antibody, NAT หรือ Rapid Test ที่ให้ผลแม่นยำในระยะเวลาที่เหมาะสมตาม ระยะฟักตัว (Window Period)

3. การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ

นอกจากการตรวจ HIV แล้ว ผู้ใช้ยา PrEP แบบฉีดยังควรได้รับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) อื่น ๆ ที่มักพบร่วมกัน เช่น:

  • ซิฟิลิส (Syphilis)
  • หนองในแท้และหนองในเทียม (Gonorrhea and Chlamydia)
  • เริม (Herpes Simplex Virus)
  • ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี (HBV and HCV)

การตรวจเหล่านี้ไม่เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมการระบาดของโรคในระดับสาธารณสุขด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง

4. เริ่มต้นฉีดเข็มแรก

หากผู้รับบริการผ่านขั้นตอนทั้งหมด ไม่มีผลตรวจบวก และไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ เช่น โรคตับเรื้อรัง, ภูมิแพ้ส่วนประกอบของยา หรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ แพทย์จะดำเนินการฉีด Lenacapavir เข็มแรก ยานี้มักฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง บริเวณหน้าท้อง หรือต้นขา ซึ่งไม่จำเป็นต้องฉีดเข้ากล้ามลึก เหมือนยาบางชนิด ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักรายงานว่ารู้สึกเจ็บน้อยกว่าที่คาดไว้ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังฉีด

5. การติดตามผล

ยา PrEP แบบฉีดออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 6 เดือน แต่ก่อนจะได้รับการฉีดเข็มถัดไป ผู้ใช้จะต้องกลับมาตรวจ HIV ซ้ำทุกครั้ง เพื่อยืนยันว่ายังไม่ติดเชื้อ ก่อนรับยาอีกเข็ม นอกจากนี้ แพทย์อาจตรวจสุขภาพโดยรวม เช่น การทำงานของตับ, ไต และตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตามรอบการติดตามที่แนะนำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน ไม่ใช่เพียงการฉีดยาเท่านั้น

ข้อควรทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพร็พแบบฉีด

ข้อควรทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพร็พแบบฉีด

  • ฉีดเข็มแรกใต้ผิวหนัง ร่วมกับการรับประทานยาเม็ดในช่วงเริ่มต้น เพื่อสร้างระดับยาในร่างกายอย่างรวดเร็ว
  • จากนั้น ฉีดซ้ำทุก 26 สัปดาห์ หรือประมาณทุก 6 เดือน
  • หากผู้ใช้ ไม่สามารถมาตามนัดฉีดยาได้ตามกำหนด แพทย์สามารถสั่งยาแบบเม็ด เพื่อใช้ชั่วคราวทดแทน จนถึงนัดฉีดครั้งถัดไป
  • หากผู้ใช้ลืมมาตามนัดฉีดอีกครั้ง อาจต้องทำการตรวจซ้ำ และชะลอการฉีดใหม่ออกไปตามดุลยพินิจของแพทย์
  • ไม่ควรรับ Lenacapavir หากกำลังสงสัยว่าติดเชื้อ HIV หรือมีอาการของการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน เช่น ไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต
  • หากผู้ใช้ต้องการหยุดใช้ Lenacapavir ควรแจ้งแพทย์ เพื่อพิจารณาการใช้ PrEP รูปแบบอื่นหรือแนวทางป้องกันแบบผสมผสาน

ยา PrEP แบบฉีด กับยา PrEP แบบกิน: อะไรเหมาะกับคุณ?

คุณสมบัติ ยา PrEP แบบกิน ยา PrEP แบบฉีด
ความถี่ ทุกวัน ปีละ 2 ครั้ง
การลืมใช้ยา เสี่ยงต่อการลืม ไม่ต้องกังวลเรื่องลืม
การออกฤทธิ์ ขึ้นอยู่กับการกินต่อเนื่อง ครอบคลุม 6 เดือนเต็ม
ผลข้างเคียง มีในบางราย เช่น คลื่นไส้ ยังไม่พบผลร้ายแรงในวงกว้าง
ความเป็นส่วนตัว ต้องพกยา ไม่ต้องพกยาในชีวิตประจำวัน

ยา PrEP แบบฉีดในบริบทประเทศไทย

แม้ในประเทศไทยจะมีบริการฉีดยาเพร็พแล้ว แต่เป็นยาตัวเดิมที่ต้องได้รับการฉีดทุก ๆ 2 เดือน ซึ่งขณะนี้ Lenacapavir ยังไม่ได้รับอนุมัติในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ แต่การมาของยานี้ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการปรับปรุงแนวทาง การป้องกัน HIV ของไทยในอนาคต ประเทศไทยมีกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับ PrEP แบบฉีด เช่น กลุ่มชายรักชายในเมืองใหญ่ กลุ่มคนทำงานบริการ และกลุ่มเยาวชน LGBTQ+ ที่อาจเข้าถึงยาแบบกินได้ยากจากเหตุผลทางสังคมและครอบครัว องค์กรที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจมีบทบาทในการผลักดันให้ Lenacapavir ถูกนำเข้ามาทดลองใช้ในระยะเริ่มต้น เพื่อประเมินผลต่อคนไทยโดยเฉพาะ ทุกวันนี้ แม้จะมีความรู้และเครื่องมือป้องกันที่ก้าวหน้า แต่การติดเชื้อ HIV รายใหม่ยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่เข้าไม่ถึงบริการหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงซ้ำซ้อน การมาของ PrEP แบบฉีดอย่าง Lenacapavir ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาตัวใหม่ แต่คือสัญลักษณ์ของความหวังที่จับต้องได้ ยิ่งสามารถกระจายการเข้าถึงยา PrEP ได้ครอบคลุมเท่าไร ยิ่งสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดยา PrEP

☞ ไม่สามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ได้ เช่น หนองใน ซิฟิลิส หรือไวรัสตับอักเสบ การใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ยังคงเป็นวิธีป้องกันกามโรคได้ดีที่สุด

☞ Lenacapavir ไม่มีปฏิกิริยาต่อฮอร์โมนเพศหรือยาคุมกำเนิด และสามารถใช้ร่วมกับยารักษาโรคเรื้อรังอื่น ๆ ได้หลายชนิด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

☞ ได้ หากผ่านการประเมินโดยแพทย์และไม่มีข้อห้าม PrEP แบบฉีด Lenacapavir เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เคยและไม่เคยใช้ PrEP มาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสะดวกและความต่อเนื่องในการป้องกัน

☞ ก่อนฉีดต้องตรวจ HIV (ต้องมีผลลบ) และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม และไวรัสตับอักเสบบีและซี

☞ ในช่วงเริ่มต้น (หลังเข็มแรก) แพทย์อาจแนะนำให้ ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยประมาณ 7–14 วัน จนกว่ายาจะเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ และแนะนำตรวจ HIV ก่อนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

PrEP แบบฉีด อย่าง Lenacapavir (ชื่อการค้า Yeztugo®)

บทสรุป

การมาถึงของ PrEP แบบฉีด อย่าง Lenacapavir (ชื่อการค้า: Yeztugo®) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการป้องกันเชื้อเอชไอวีในระดับโลก จากการฉีดเพียง ปีละ 2 ครั้ง ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดภาระในการกินยาทุกวัน และเสริมความสะดวกในการเข้าถึงสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลาหรือวิถีชีวิต การได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ไม่เพียงแสดงถึงความก้าวหน้าเชิงวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเปิดประตูสู่ความหวังใหม่ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง และยังเข้าไม่ถึงบริการ PrEP แบบเดิม แม้ประเทศไทยยังไม่ได้บรรจุยา Lenacapavir เข้าสู่ระบบบริการสุขภาพอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยผลการวิจัยที่น่าประทับใจและความต้องการในกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เราอาจได้เห็น PrEP แบบฉีด กลายเป็นเครื่องมือหลักในการยุติการแพร่ระบาดของเอชไอวีในอนาคตอันใกล้นี้

อ้างอิงข้อมูลจาก:

Yeztugo® (Lenacapavir) Is Now the First and Only FDA-Approved HIV Prevention Option Offering 6 Months of Protection

FDA Approves a Twice-Yearly Shot to Prevent HIV

  • https://time.com/7295343/fda-hiv-shot-lenacapavir-yeztugo

US FDA approves Gilead’s twice-yearly injection for HIV prevention

  • www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/us-fda-approves-gileads-twice-yearly-injection-hiv-prevention-2025-06-18

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า