ตรวจเอชไอวี เพื่ออนาคตที่ปลอดภัย ทุกสิ่งที่คุณควรรู้ก่อน – หลังการตรวจ

สารภูมิต้านทานเอชไอวี

การตรวจสอบสารภูมิต้านทานเอชไอวี คือ การตรวจเลือด เพื่อค้นหาสารภูมิต้านทานเอชไอวี (HIV) ในร่างกาย โดยที่ร่างกายจะผลิตสารภูมิต้านทานเหล่านี้ภายในประมาณ 4-6 สัปดาห์ของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเราเรียกช่วงนี้ว่าเป็น “ระยะหลบ” (Window Period) หากผลของการค้นหาสารภูมิต้านทานเอชไอวีออกมาเป็น “ผลลบ” หมายความว่าอะไร?

ผลการตรวจหาเอชไอวีที่ออกมาเป็นลบ หมายความว่า บุคคลผู้นั้นไม่ได้รับการติดเชื้อเอชไอวี หรือบุคคลผู้นั้นได้รับการติดเชื้อภายในระยะเวลาไม่กี่วัน แต่ยังไม่ได้ผลิตสารภูมิต้านทาน

หากผลของการค้นหาสารภูมิต้านทานเอชไอวีออกมาเป็น “ผลบวก” หมายความว่าอะไร?

ผลที่ออกมาเป็นบวก หมายความว่า ได้ตรวจพบสารภูมิต้านทานเอชไอวี คือบุคคลผู้นั้นได้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่สถานพยาบาล หรือสถานที่รับตรวจเลือด จะไม่มีการแจ้งผลดังกล่าวให้ท่านทราบทางโทรศัพท์ หรือทางช่องทางอื่นๆ เพราะถือเป็นความลับสำคัญที่เจ้าตัวจะต้องทราบจากปากผู้ให้คำปรึกษา หรือผู้ตรวจเลือดเอง และจะนัดตรวจผลซ้ำเพื่อยืนยันให้แน่ใจอีกครั้ง

ผลการตรวจที่ไม่ชี้ขาด อาจหมายความว่าไม่มีการจำเพาะเจาะจงว่าผลเลือดออกมาเป็นบวก หรือเป็นลบ และจำเป็นจะต้องมีการตรวจซ้ำใหม่ เพราะในบางราย ผลการตรวจครั้งต่อไปก็ออกมาเป็นลบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ตรวจ อุปกรณ์ และน้ำยาที่ใช้ตรวจ รวมไปถึงระยะที่เพิ่งติดเชื้อมาจนถึงวันที่ไปตรวจประกอบกัน

ข้อดีของการทราบสถานะเอชไอวีของท่าน ในกรณีที่ผลออกมาเป็นบวก

ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างทันถ้วงที การเข้าสู่กระบวนการรักษา และการทานยาต้านไวรัสเอชไอวี จะช่วยปรับปรุงระยะเวลา และคุณภาพของชีวิตของคนที่ติดเชื้อ HIV เป็นอย่างมาก

ทำให้ได้รับความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะผลเลือด รวมทั้งสามารถพูดคุยบอกกล่าวกับคนในครอบครัว คู่นอน ภรรยา หรือสามี ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับผู้ติดเชื้อ HIV

ทำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เป็นการรับเชื้อ HIV มาเพิ่มทำให้ร่างกาย ยับยั้งโอกาสเสี่ยงที่จะนำเชื้อไปแพร่สู่คนอื่นทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือประมาท

การรู้ผลตรวจเลือดอาจทำให้คุณรู้สึกเครียด และเป็นกังวล ควรปรึกษา พูดคุยกับผู้ที่ให้คำปรึกษาเฉพาะทาง ในสถานพยาบาล หรือแพทย์ที่ทำการรักษา เพราะการทำความเข้าใจทั้งสองฝ่ายจะช่วยให้กระบวนการในการรักษาออกมาในทางที่ดี และทำให้สุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตของคนที่ติดเชื้อเอชไอวีดีขึ้น

ควรเลือกสถานที่ตรวจ หรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และข้อมูลของคุณถูกระบุว่าเป็นความลับ ซึ่งสถานที่ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการให้ระบุชื่อ หรือที่อยู่ แต่จะมีกฎในการลงชื่อยินยอมในการตรวจเลือด และข้อมูลแก่แพทย์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการรักษาเท่านั้น