DragCon UK ท่ามกลางกระแสโลกาวิวัฒน์ ความก้าวหน้าก้าวไปพร้อมกับการตระหนัก และเรียนรู้ถึงเรื่องสิทธิ และเสรีภาพ กลับกลายเป็นว่าหลายพื้นที่ของทั่วทุกมุมโลกยังก้าวไม่พ้นตรรกะของการทำความเข้าใจในรสนิยมทางเพศ และความหลากหลายของผู้คน และถึงแม้จะเป็นแบบนั้นก็ต้องพูดถึงว่า Rupaul Community ได้กลายมาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของชาวเพศหลากหลาย และกลายมาเป็นงานเทศกาลของครอบครัว ที่คุณพ่อคุณแม่ยินดีที่จะพาลูกๆ มาสัมผัสถึง “ความหลากหลาย” ของผู้คนในสังคม พร้อมพบปะเหล่าซุปเปอร์สตาร์มากกว่า 150 ชีวิต
การกลับมาของ DragCon UK
หลังจากผ่านช่วงโควิดมายาวนานเกือบสามปี ทำให้กิจกรรมกลางแจ้ง หรือทุกกิจกรรมที่ผู้คนต้องมาร่วมตัวกันถูกยกเลิกไป ในที่สุดงาน DragCon UK ก็สามารถกลับมาจัดได้ และพร้อมต้อนรับกับทุกครอบครัวที่เข้ามาร่วมงาน โดยภาพในงานเทศกาลดังกล่าวก็เต็มไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ศิษย์เก่าจากรายการรูพอล แดร็กเรส รายการแข่งขันที่ทำให้ความเป็นครอบครัวของเพศหลากหลายได้กระชับพื้นที่ความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงพูดคุยระหว่างแต่งหน้า ที่จะทำให้เราได้เห็นพวกเขาเหล่านั้นสะท้อนมุมมองของ “ความเป็นมนุษย์” เท่ากันกับพวกเราทุกคนออกมา
แม้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา จะมองว่า พื้นที่ของความหลากหลายทางเพศ ยังเร็วเกินไปที่จะให้เด็กๆ เหล่านั้นสัมผัส แต่พ่อแม่ และผู้ปกครองที่พาเยาวชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน ยืนยันว่าพวกเขามองว่าพื้นที่ของ DragCon หรือพื้นที่อื่นๆ ที่มาจากพวกเขา ล้วนแล้วแต่เป็น พื้นที่ปลอดภัย และถือเป็นอิสระที่จะให้เด็กๆ ได้สัมผัส ค้นหาสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบจากมัน
“คุณเป็นใครก็ได้ที่คุณอยากจะเป็น”
แดร็กควีนคนหนึ่งกล่าว หลังจากวิพากษ์วิจารณ์ ส.ส.ที่พยายามกีดกันผู้เยาว์ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมแดร็ก
Lady Camden แดร็กควีน และผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายในซีซั่นที่ 14 ของ “RuPaul’s Drag Race” กล่าวว่าเธอไม่มีพื้นที่ในการแสดงออกเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก และชอบที่จะเข้าร่วมงาน DragCon (ในนิวยอร์ก และลอสแองเจลิสมีงาน DragCons ด้วย)
“ฉันหวังว่าฉันจะปลดปล่อยให้ตัวเองได้เป็นเกย์ และเป็นผู้หญิงมากขึ้นในตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก” เธอกล่าว “ฉันอยากจะย้อนเวลากลับไป และปล่อยให้ตัวเองเล่นกับตุ๊กตาบาร์บี้ และปล่อยให้ตัวเองสวมชุดสีชมพู พูดในสิ่งที่อยากพูด รักใครก็ได้ที่ฉันอยากจะรัก” เลดี้ แคมเดนกล่าว
ในส่วนของผู้ปกครองหลายคน ถึงแม้พื้นที่จะมาจากการเป็นแฟนรายการรูพอลฯ แต่หลายคนก็ยังยืนยันว่าอีกหนึ่งเหตุผลในการพาบุตรหลานมาเข้าร่วมงาน เป็นเพราะอยากให้เด็กๆ ได้เข้าถึงอิสระของการสัมผัสศิลปะทุกรูปแบบที่ถูกนำเสนอผ่านแดร็กควีน
“ฉันต้องการให้เธอสามารถยอมรับผู้คนจากทุกวิถีทาง และเปิดใจกว้างทุกครั้งในห้วงขณะความคิด ยอมรับความหลากหลายทั้งหมดอย่างแท้จริง” Trish ผู้อาศัยในลอนดอนที่ได้พาลูกสาววัย 5 ขวบของเธอชื่อ Maxine มาเข้าร่วมงานนี้กล่าว
Danielle Gostling ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Kent ประเทศอังกฤษ พาลูกสาวของเธอ Dorothy วัย 6 ขวบ เข้าร่วมงานแฟร์ดังกล่าว เธอกล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่เกินเลยไปเลย” เกี่ยวกับรูปแบบของศิลปะที่ทุกคนนำเสนอ
“มันเกี่ยวกับความสนุกสนาน การแสดงออก ความรัก และความเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่เด็กๆ จะต้องรู้” เธอกล่าว
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีการออกกฎหมายอย่างน้อย 6 ฉบับโดยฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐทั่วสหรัฐฯ ที่พยายามจำกัดสถานที่ และผู้คนที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ โดยมาตรการเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าร่วมการแสดงแดร็กโดยเฉพาะ
“นั่นเป็นสิ่งที่ผิด” โดโรธี กอสลิงกล่าวถึงร่างกฎหมายที่เสนอ “คุณหยุดการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้!”
Gemini นักแสดงแดร็ก วัย 18 ปีจากเมืองเซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งฝึกฝนศิลปะการแสดงตั้งแต่อายุ 12 ปี กล่าวว่าแดร็กคือ “การเสริมความมั่นใจ” เธอเข้าร่วมงาน Kids Fashion Show ของ DragCon UK เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยการสวมชุดวอร์มสีชมพู และเธอยังกล่าวว่าแดร็กช่วยให้เธอสามารถจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ และเพิ่มความมั่นใจในตนเองได้
“ในฐานะเกย์วัยรุ่นในโรงเรียน คุณมักจะถูกรังแก หรือเป็นเป้าหมายในการรังแก แต่สำหรับฉัน การทำอะไรบ้าๆ บอๆ ช่วยให้ฉันผ่านมันไปได้ และทำให้ฉันคิดว่า ‘ฉันสามารถเป็นฉันได้ ฉันนิ่งขรึมเป็นตัวเองได้ และเป็นใครก็ได้ที่ฉันต้องการ ‘” เธอกล่าว
คิตตี้ สก็อตต์ คลอส ผู้เข้าแข่งขันในซีซันที่สามของรายการ “RuPaul’s Drag Race UK” สรุปสั้นๆ ถึงความรู้สึกที่ดูเหมือนจะตรงใจใครหลายคนในงานแฟร์
“การแต่งแดร็กมีไว้สำหรับทุกคน และทุกคนก็สนุกได้” เธอกล่าว “ถ้าคุณชอบการแดร็ก อายุของคุณก็ไม่ควรเป็นเรื่องสำคัญ”
Drag ในประเทศไทย
แม้บ้านเราจะยังไม่มีกฎหมาย ห้ามให้เยาวชนเข้าถึงพื้นที่ของความหลากหลายทางเพศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพื้นที่ในการแสดงออกของความหลากหลายนั้นก็ค่อนข้างน้อย มีเยาวชนหลายคนที่ชื่นชอบการแต่งแดร็ก แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นในทิศทางไหน ไปกับใคร หรือไปต่อยังไง ในพื้นที่ๆ ไม่ชัดเจน หรือกระแสต่อต้านเองก็ยังมีออกมาในรูปแบบที่มองไม่เห็น เช่น ต่อให้เป็นละครทีวี แต่ถ้ามีตัวละครนำเป็นเพศเดียวกัน ผู้ปกครองหลายท่านก็ยังไม่รู้สึกยินยอมที่จะให้ฉายในฟรีทีวี ในช่วงเวลาไพรส์ไทม์ หรือเวลาที่เด็กหลายคนรับชม
Cr. Timeout.com
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเอง การกระจายความหลากหลายในทุกพื้นที่ก็ยังดำเนินต่อไป โดยกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจในวันเด็กที่ผ่านมา คือ กิจกรรมเล่านิทานผ่านแดร็กควีน ณ สวนครูองุ่น ที่ให้เด็กๆ วัยเยาว์ได้มานั่งฟังนิทานผ่านแดร็กควีนเพื่อซึมซับกับตัวตน และเรื่องราวของพวกเธอ แม้จะเป็นกิจกรรมเล็กๆ แต่ก็นับว่าเป็นการกะเทาะเปลือก เปิดพื้นที่ความหลากหลายให้กับทุกคนต่อไป
ผู้เขียนเองก็หวังว่า จะถึงวัน และเวลาที่ประเทศไทยเอง จะมีมากกว่าแค่งานแดร็กแฟร์ ความหลากหลายทางเพศ แต่มากกว่านั้น คือ สิทธิที่จะสามารถรักกับใครก็ได้ที่อยากรัก แต่งงานกับใครก็ได้ที่เราอยากแต่ง ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ภายใต้ความเท่ากันในความเป็นมนุษย์ของพวกเราทุกคน และวันนั้นมันจะมาถึงในไม่ช้า
อ้างอิง : NBC News
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่นี่
- ชีวิตของ เพศที่สาม ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- The Whale หนังที่นำเสนอเรื่อง LGBTQ+