หนองใน เป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด โดยปกติแล้วผู้ป่วยมักไม่แสดง อาการของโรคหนองใน อย่างชัดเจน ควรรีบการรักษาก่อนที่จะแพร่สู่คู่นอน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงมากยิ่งขึ้น
หนองใน คืออะไร ?
โรคหนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae อาการของโรคหนองในจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ติดเชื้อ ความรุนแรงของการติดเชื้อ และระยะเวลาที่ติดเชื้อ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- หนองในแท้
- หนองในเทียม
การวินิจฉัยโรคหนองใน
การตรวจร่างกาย
แพทย์อาจตรวจร่างกาย เพื่อดูอาการที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคหนองใน เช่น มีหนองหรือมูกไหลออกจากท่อปัสสาวะ หรือช่องคลอด บวมหรือเจ็บบริเวณอัณฑะ ตกขาวผิดปกติ ปวดท้องน้อย เป็นต้น
การตรวจปัสสาวะ
แพทย์อาจเก็บตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อตรวจหาเชื้อหนองใน การตรวจปัสสาวะอาจไม่แม่นยำในบางกรณี เนื่องจากเชื้อหนองในอาจไม่พบในปัสสาวะเสมอไป
การตรวจเชื้อจากท่อปัสสาวะ หรือ ช่องคลอด
แพทย์อาจใช้ไม้พันสำลีป้ายบริเวณท่อปัสสาวะหรือช่องคลอด เพื่อเก็บตัวอย่างเชื้อหนองใน ตัวอย่างเชื้อจะถูกนำไปเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อหนองใน
การตรวจเชื้อจากทวารหนัก หรือ คอ
แพทย์อาจใช้ไม้พันสำลีป้ายบริเวณทวารหนักหรือคอ เพื่อเก็บตัวอย่างเชื้อหนองใน ตัวอย่างเชื้อจะถูกนำไปเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อหนองใน
หากผลการตรวจใด ๆ บ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคหนองใน แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผล
อาการของโรคหนองใน ผู้ชาย
มีอาการปัสสาวะแสบขัด และมีหนองสีขาวขุ่นข้นไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ซึ่งในระยะแรกๆ หนองอาจจะไม่ขุ่นเท่าไร แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทำให้หนองขุ่นขึ้น มีโอกาสทำให้เป็นหมันได้
อาการของโรคหนอง ในผู้หญิง
มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวปริมาณมากและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง เกิดการอักเสบที่ปากมดลูกและท่อปัสสาวะ หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้โรคลุกลามจนก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะอุดตันในท่อรังไข่ ส่งผลให้เป็นหมัน หรือมีการตั้งครรภ์นอกมดลูก
การรักษาโรคหนองใน
สำหรับการรักษาโรคหนองในนั้น สามารถใช้การรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ในการรักษา รวมถึงใช้การรักษาอื่นๆควบคู่เพื่อบรรเทาอาการ และรักษาภาวะแทรกซ้อนของโรค การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะจะค่อนข้างได้ผลดี หากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเร็ว สามารถหายได้เร็ว แต่อาการความเสียหายของเนื้อเยื่อต้องใช้เวลาให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง สำหรับผู้ติดเชื้อหนองใน แพทย์จะให้ตรวจเลือด เพื่อดูว่าติดเชื้อโรคอื่นๆหรือไม่ เช่น เชื้อเอชไอวี เชื้อซิฟิลิส
การป้องกันโรคหนองใน
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคหนองใน
- ตรวจคัดกรองโรคหนองในอย่างสม่ำเสมอ
กิจกรรมที่ไม่ทำเกิดการติดเชื้อหนองใน
- การจับมือ
- การกอด
- การจูบ
- การใช้แก้วน้ำ จาน ชามร่วมกัน
- การใช้ห้องน้ำร่วมกัน
- การใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน
ภาวะแทรกซ้อน โรคหนองใน
หากไม่ได้รับการรักษา โรคหนองใน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง
ภาวะแทรกซ้อน อาการของโรคหนองใน ในผู้ชาย ได้แก่
- การติดเชื้อในท่อนำอสุจิ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยาก
- การติดเชื้อในลูกอัณฑะ ซึ่งอาจทำให้ลูกอัณฑะอักเสบ และติดเชื้อ
- การติดเชื้อในต่อมลูกหมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย และปัสสาวะแสบขัด
ภาวะแทรกซ้อนอาการของโรคหนองใน ในผู้หญิง ได้แก่
- การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (PID) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยาก
- การตั้งครรภ์นอกมดลูก
- การแท้งบุตร หรือคลอดก่อนกำหนด
- การติดเชื้อในเยื่อบุตา ของทารกแรกเกิด
โรคหนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย อาการของโรคหนองในอาจไม่ปรากฏชัดเจนในบางราย ดังนั้นจึงควรตรวจคัดกรองโรคหนองในอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน