ลืมกินยา HIV แก้ไขอย่างไรไม่ให้เชื้อดื้อยา มาดูคำแนะนำ และข้อควรระวัง

ลืมกินยาต้าน HIV

ลืมกินยาต้าน ใครๆ ก็คงเคยลืมได้บ้าง เพราะแน่นอนว่ายาพวกนี้ไม่ใช่ยาที่คนทั่วไปจะรู้จักกัน นอกจากคุณมีความเสี่ยงที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือคุณกำลังรักษาไวรัสเอชไอวีอยู่ และเมื่อคุณไม่ได้กินยาต้านฯ ตามระยะเวลาที่กำหนดโดยปกติ คุณอาจมีความกังวลใจในเรื่องของประสิทธิภาพการรักษาได้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง หรือเครียดไปมากนัก เพราะยังมีวิธีการจัดการกับสถานการณ์ที่คุณเผลอลืมกินยาต้าน นี้ได้อยู่ครับ

Love2Test

ลืมกินยาต้าน ทำอย่างไรได้บ้าง?

หากคุณยังลืมกินยาเพร็พ (PrEP) ยาเป๊ป (PEP) หรือยาต้านไวรัสเอชไอวี (ART) มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้คุณยังคงรักษาตารางเวลาการกินยาของคุณให้กลับเข้ามาเป็นปกติ

กินยาที่ลืมทันที ที่นึกขึ้นได้

การกินยาทันทีที่คุณจำได้ในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ถือว่ายังทันเวลาที่ร่างกายควรได้รับยาโดสนั้น แต่หากคุณลืม ลืมกินยาหลังจากนั้น หรือใกล้กับเวลาที่จะกินยามื้อถัดไป อย่ากินยาที่ลืม ควรรอจนกว่า จะถึงเวลาตามกำหนดของยาครั้งต่อไป

อย่าเพิ่มจำนวนโดสเด็ดขาด

การเพิ่มขนาดยาไม่ได้ช่วยทดแทนปริมาณยา ในกรณีที่คุณลืมกินยาแต่อย่างใด ซ้ำร้ายยังทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาที่รุนแรง หรือมีผลข้างเคียงต่อการเพิ่มจำนวนโดสเอง หากลืมแล้ว และเกินระยะเวลาก็ควรรอทานในจำนวนปกติของมื้อถัดไปจะปลอดภัยกว่า

ลืมกินยาต้าน ก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน

หากคุณลืมกินยาต้าน สิ่งสำคัญ คือ ต้องคำนึงถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการสวมถุงยางอนามัยจนกว่าคุณจะกินยาได้ในตารางเวลาปกติที่แพทย์แนะนำ เช่น ยาเพร็พ ควรกินติดต่อกัน 7 วันขึ้นไป ถึงจะสามารถแน่ใจได้ว่าคุณจะได้รับการป้องกันจากเชื้อเอชไอวี

ใช้นาฬิกาปลุก หรือแอปพลิเคชันเตือนความจำ ไม่ให้ ลืมกินยาต้าน

การให้ความสำคัญ และรักษาตารางเวลาในการกินยาให้สม่ำเสมอ เป็นประจำ จะช่วยให้ฤทธิ์ยาช่วยป้องกันเชื้อเอชไอวีได้สูงสุด หากคุณลืมกินยาต้าน ให้ลองตั้งนาฬิกาปลุก หรือใช้แอปพลิเคชันเตือนความจำ เพื่อช่วยให้คุณทำตามกำหนดเวลาได้ในทุกครั้งที่กินยา

วางยาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม

การวางยาไว้ในตำแหน่งที่คุณเห็นเป็นประจำ เพื่อที่จะได้สังเกตเห็นทุกวัน และไม่ลืมกินยา เช่น วางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง วางไว้บนหัวเตียง หรือโต๊ะทำงานส่วนตัว ทั้งนี้ ยาต้านไวรัสเอชไอวี ก็ไม่ควรวางทิ้งไว้อย่างโจ่งแจ้งมากนัก เพื่อป้องกันผู้อื่นรับรู้ หรือป้องกันเด็กน้อยมาหยิบทานโดยไม่ทันระวัง

“PrEPLove2Test"

ประโยชน์ในการกินยาตรงต่อเวลา

การกินยาต้านตรงต่อเวลา และถูกต้องตามปริมาณที่แพทย์สั่ง เป็นสิ่งที่ช่วยให้การรักษาเอชไอวีเป็นไปอย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนของโรคลงได้มาก ทั้งนี้ตัวยาที่ได้รับจากแพทย์ มีความหลากหลาย ตามรูปแบบ ยี่ห้อ และสูตรยา การเรียนรู้วิธีการกินยาให้ถูกต้อง สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรง และปลอดภัย โดยวิธีการกินยาให้ถูกวิธี มีดังต่อไปนี้

กินยาให้ถูกปริมาณ

  • ยาต้านไวรัสเอชไอวีที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่เอื้ออำนวยให้กับผู้กินยามากขึ้น โดยจะมาให้รูปแบบยาเม็ดเดียว กินง่าย วันละครั้ง จึงทำให้ไม่มีความยุ่งยากสำหรับผู้กินยาว่าควรกินกี่เม็ด ปริมาณเท่าไหร่ตอนไหนบ้าง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณที่สมควรกินก่อนทุกครั้ง

กินยาให้ตรงต่อเวลา

  • กินยาให้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด ไม่ขาดยา ไม่กินยาช้าเกินไป ซึ่งในยาบางชนิด คุณอาจเลือกปรึกษาแพทย์ว่าควรทานก่อนอาหาร หรือหลังอาหารที่จะช่วยลดโอกาสการระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง

กินยาให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย

  • กินยาให้ถูกคน เช่น ยาเพร็พกับยาเป๊ป จะกินได้ก็ต่อเมื่อคนนั้นยังไม่มีเชื้อเอชไอวีอยู่เท่านั้น หรือในกรณีอายุ หรือเพศ แพทย์ก็ควรพิจารณา และวินิจฉัยที่จะจ่ายยาให้ตรงกลุ่มด้วย

กินยาให้ถูกวัตถุประสงค์

  • กินยาให้รู้ว่าต้องการรักษาอะไร หรือให้รู้ว่ามีสรรพคุณด้านใด ในกรณีที่เป็นยาเพร็พ ใช้กินก่อนมีความเสี่ยงเพื่อป้องกันเอชไอวี ยาเป๊ป ใช้กินหลังมีความเสี่ยง หรือยาต้านไวรัสเอชไอวี ก็ต้องกินเพื่อรักษาเอชไอวี ที่ได้ติดเชื้อมาเรียบร้อยแล้ว

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการกินยาต้านฯ

  • หากมีการแบ่งยา ใส่ตลับยา เพื่อให้สะดวกต่อการกินยาข้างนอก หรือกรณีที่เดินทางไปต่างจังหวัด หรือกรณีที่อยากแยกยาออกจากกระปุกเพื่อไม่ให้คนอื่นล่วงรู้ว่าคุณกินยาอะไรอยู่ แนะนำให้แบ่งในปริมาณที่พอดี ไม่ควรแบ่งออกมาล่วงหน้านานหลายวัน เพราะมีโอกาสที่ยาต้านฯ จะเสื่อมสภาพ และทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาลดลง
  • ห้ามแบ่งยาต้านฯ ของตัวเองให้กับคนอื่นกินโดยเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าเขามีสถานะเอชไอวีเป็นอย่างไร หากให้กินยาสุ่มสี่สุ่มห้า ในอนาคตเขาเหล่านั้นมีสิทธิ์ดื้อยา และไม่สามารถหายาตัวไหนมารักษาร่างกายให้หายดีได้
  • หากพบว่า กินยาไปแล้วมีผลข้างเคียงที่ผิดปกติ นอกเหนือจากแพทย์แจ้งไว้ ควรรีบกลับไปปรึกษาแพทย์ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้หายไปเอง เพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาเลือกยาตัวอื่น หรือรักษาคุณได้ทันที
  • เก็บรักษายาต้านไวรัสเอชไอวีในพื้นที่ที่เหมาะสม ไม่ควรเก็บไว้ในรถยนต์ หรือห้องที่มีแสงแดดส่องตลอดทั้งวัน เพราะอุณหภูมิที่ร้อนจัดจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ และควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก
  • ตรวจเช็ควันหมดอายุเป็นประจำ เพื่อไม่ให้กินยาที่เสื่อมสภาพเข้าไปในร่างกาย หากพบว่ามีสี หรือกลิ่นที่เปลี่ยนไปไม่ควรกินยานั้น และไปพบแพทย์เพื่อขอสั่งจ่ายยาใหม่ทันที
  • ไม่กินยาต้านกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นม น้ำอัดลม เนื่องจากอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาลดลง และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

ผลข้างเคียงยาต้านไวรัส

ยาต้านไวรัสเอชไอวีสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่

  • อาการท้องเสีย
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปวดศีรษะ
  • อ่อนเพลีย

ผลข้างเคียงเหล่านี้มักไม่รุนแรง และหายไปเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือรบกวนชีวิตประจำวัน

มันเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะพลั้งพลาด และลืมกินยาไปได้บ้างในบางเวลา โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนักจนลืม การหลงลืมยาไว้ที่อื่นทำให้ไม่สามารถหยิบมากินได้ในช่วงเวลาที่กำหนด หรือติดธุระจนไม่มีเวลากลับไปพบแพทย์เพื่อรับยาตามกำหนัดได้ จึงจำเป็นต้องขาดยา สิ่งสำคัญคือ ต้องทราบว่าการที่ลืมกินยาต้าน เพียงครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่า คุณจะติดเชื้อเอชไอวีเลย

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามตารางการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการคงระดับของตัวยาในกระแสเลือก หากคุณมีข้อสงสัย หรือคำถามใดๆ เกี่ยวกับการกินยาเพร็พ (PrEP) ยาเป๊ป (PEP) หรือยาต้านไวรัสเอชไอวี (ART) โปรดปรึกษาแพทย์ หรือผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณทันทีครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า