ชีวิต LGBTQ และ Drag หลังเหตุกราดยิงในโคโลราโด (แท็ก การเมือง) แดร็กควีนในอเมริกา ทยอยจ้างบอดี้การ์ด พร้อมทั้งมีการเซ็นเซอร์ตรวจจับโลหะกับผู้ชม ก่อนเข้าทำงานเข้าโชว์ในแต่ละครั้ง หลังจากการเกิดการกราดยิงที่ไนท์คลับเพศทางเลือกใน รัฐโคโลราโด
ชีวิต LGBTQ และ Drag รายการ RuPaul’s Drag Race
Yvie Oddly ผู้ชนะจากรายการ RuPaul’s Drag Race ซีซั่นที่ 11 และยังเป็นประชากรจากรัฐโคโลราโดอีกด้วย ได้แจ้งกับแหล่งข่าว เรื่องทางสังกัดในตอนนี้ เริ่มมีการตรวจสอบในคลับก่อนแสดง มีบุคลากรรักษาความปลอดภัยในระหว่างการแสดง และจะต้องใช้สัญญาณเตือนภัยในสถานที่ได้อย่างทันที หากเกิดเหตุการณ์
“มันน่าเศร้า และน่าเสียดายที่เหล่า ชีวิต LGBTQ อย่างเราต้องมาถึงจุดนี้ แต่การตรวจความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะมาทำงานในที่ๆ เป็นคอมมิวนิตี้ของเรา” – ทางสังกัดได้แจ้งไว้กับเธอ
Jinkx Monsoon ผู้ชนะ RuPaul’s Drag Race ถึงสองรางวัลทั้ง Season 5 และ All Winners ได้บอกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งล่าสุด วันที่ Club Q กำลังมีการแสดง Drag Divas Night และจู่ๆ ก็มือปืนเข้ามา กราดยิงในคลับ
ยอดผู้เสียชีวิตอาจจะมากว่า 5 คน หากไม่ได้ ลูกค้าสองคนในร้านที่ช่วยกันจับผู้ร้ายลงมา ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังช่วยเหลือเพื่อนๆ ผู้บาดเจ็บสาหัส การโจมตีดังกล่าวนำไปสู่การเรียกร้องให้มีความปลอดภัยเกี่ยวกับการถืออาวุธ และปืนมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา
“เราพยายามที่จะยิ้ม และทำให้ผู้คนมีความสุขในวันหยุดเทศกาล และสิ่งในหัวที่คิดอยู่ตลอดเวลาคือ ‘ฉันหวังว่า คงไม่มีใครมายิงฉันนะ’” Jinkx Monsoon ได้บอกกลับแหล่งข่าว NBC
เธอต้องใช้บอดี้การ์ดอีกครั้งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยมีมากับเหตุการณ์ 6 ปีที่แล้ว กับการกราดยิงที่ Pulse LGBTQ+ ไนท์คลับที่รัฐฟลอริด้า ที่สูญเสียผู้คนไปมากกว่า 49 คน
NBC ได้พูดคุยกับแดร็กควีนชื่อดังหลายคน ที่เป็นที่รู้จักมากมายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้พูดกันถึงว่า ปัจจุบันนี้การโจมตีแดร็กควีนในปัจจุบันนั้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะผ่านทั้งทางกาย ทางคำพูด ทางการเมือง หรือแม้กระทั่งออกกฏหมายออกมา
ศิลปะของชีวิต LGBT และแดร็กควีนมีมากกว่าหลายทศวรรษ
แต่กลับมาเป็นที่นิยม และโด่งดั่งไปทั่วหลังมี Transgender และแดร็กควีน ออกมามีกิจกรรม และมีบทบาทมากขึ้นในสังคม นั่นทำให้ออกมาเคลื่อนไหวกันสำหรับสิทธิ์ของเกย์มากขึ้นในสหรัฐอเมริกา กระทรวงความมั่นคงก็ออกมาเตือนว่าเป้าหมายของความรุนแรง อาจจะเกิดขึ้นในกลุ่มของ LGBTQI+ แม้ในขณะที่รัฐสภาสหรัฐกำลังผ่านกฏหมายของการแต่งงานสำหรับเพศเดียวกันก็ตาม
Latrice Royale หนึ่งในแดร็กควีนที่ทำงานมามากกว่า 30 ปีในวงการ คนที่มีชื่อเสียงมากอีกคนหนึ่งในรายการ RuPaul’s Drag Race ได้กล่าวว่า “ กลับไปเมื่อก่อนนั้น ก่อนที่เราจะขึ้นออกมาบนสื่อทีวีบนจอ ก่อนที่จะได้ออกตามช่องต่างๆ และมีเดียมากมายในเวลากลางวัน แต่ก่อนเราทำงานกัน ที่เรียกว่า ‘underground’ คือไม่ได้มีให้พบเห็นทั่วไป”
ปัจจุบันการแสดง Drag Brunch (การแสดงของแดร็กควีนที่เอนเตอร์เทนลูกค้าระหว่างทานอาหารในช่วงกลางวัน) และ Story Hours (ที่แดร็กควีนจะทำงานที่ห้องสมุด และเล่านิทานให้กับเด็กๆ) เป็นที่นิยมมากๆ และก็อันตรายมากเช่นกัน เพราะกำลังเป็นเป้าหมายในการถูกโจมตี
Alaska ผู้ชนะในรายการ RuPaul’s Drag Race All Stars 2 ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ว่าเธอจะต้องเอาความปลอดภัยมาก่อน ไม่ว่าจะบอดี้การ์ด หรือรวมกระทั่ง รถตำรวจที่จะต้องจอดแสตนบายใกล้ๆ ของสถานที่ ที่กำลังทำการแสดงในคืนนั้นๆ
“มันน่าสลดใจ ที่เราต้องมาเอาสิ่งพวกในใส่ในหัวสมอง ในระหว่างที่เรากำลังสนุก และเฉลิมฉลอง ระหว่างแดร็กโชว์ ทำไมเราต้องมานั่งกังวลว่าตอนแสดงนั้น จะต้องคิดว่าทางไหนนะคือทางออก ทางไหนคือทางที่ปลอดภัยที่สุดที่จะหลบภัยได้ มันน่ากลัว และหดหู่ แต่นั่นแหละ มันคือสัจธรรมไปแล้ว”
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ข้อมูลอ้างอิง : theguardian