ต้องยอมรับว่า การป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพนั้น คือ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และยังเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แถมยังบ่งบอกว่าคุณมีความรับผิดชอบทั้งต่อคู่นอน และตัวเองด้วย แต่หากมีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง หรือมีการใช้สารเสพติด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ทุกอย่างไม่มีอะไรที่ป้องกันได้ 100% โอกาสเกิดความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ
- เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือใช้บริการผู้ให้บริการทางเพศ
- เสพยาเสพติด ทำให้สติสัมปะชัญญะไม่อยู่กับตัว
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนมึนเมา ขาดสติ
- การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือไม่ได้รับการหล่อลื่นที่ดี
- การใช้ถุงยางอนามัยที่ไม่ถูกวิธี หรือถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพ
ป้องกันแล้วทำไมยังต้องตรวจเอชไอวี ?
การตรวจเอชไอวี ก็เหมือนกับการตรวจสุขภาพประจำปีนั่นเอง ทุกคนควรจะรู้สถานะเอชไอวีของตนเอง เพื่อการวางแผนชีวิตต่อไปในอนาคต คนที่พบเชื้อรีบเข้าสู่กระบวนการรักษา ทำให้ไม่เจ็บป่วย ไม่กลายเป็นโรคเอดส์ คนที่ไม่พบเชื้อก็จะได้ป้องกันตนเองให้ปลอดเชื้อตลอดไป
หลายคนมั่นใจว่าตัวเองมีแฟนคนเดียว แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าแฟนของเรามีความสัมพันธ์กับคนอื่น หรือไม่ ผู้เขียนไม่ได้ต้องการสร้างความร้าวฉานในครอบครัว แต่ตามสถิติ และประสบการณ์ของคู่รักหลายคู่นั้น อีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ลับๆ ที่ไม่ได้อยากให้คนรักของตัวเองรับรู้ มันเป็นความจริงที่ว่า เราไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคนรักตลอด 24 ชั่วโมง หรือบางคู่เป็นรักทางไกล อยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างประเทศ จึงไม่อาจมั่นใจได้ว่าคนรัก หรือคู่นอนของเรานั้นปลอดภัยแค่ไหน เราจึงจำเป็นต้องตรวจเอชไอวี
และถึงแม้จะมั่นใจว่าใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้ว ก็ยังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรค เช่น เริมที่อวัยวะเพศ หูดหงอนไก่ ที่หากคู่นอนของคุณเป็นโรคนี้อยู่ ก็สามารถแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสทางผิวหนังได้ แม้ใช้ถุงยางฯ เชื้ออาจติดตรงส่วนที่อยู่นอกถุงยางอนามัยได้เช่นกัน โดยผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะมีโอกาสติดไวรัสเอชไอวีได้เร็วกว่าคนปกติอีกด้วย เพราะฉะนั้นถึงจะป้องกันแล้วก็ควรตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเป็นประจำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี
“ป้องกันให้ถูกวิธี หนีไกลเอชไอวี”
มีความเสี่ยงบ่อย ทานเพร็พ (PrEP) ช่วยได้
ยาเพร็พ (PrEP) หนึ่งทางเลือกของผู้ที่มีความเสี่ยง หากคุณมีการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีคู่นอนหลายคน มีการใช้บริการผู้ให้บริการทางเพศ มีการใช้สารเสพติดชนิดฉีด รวมไปถึงคู่รักที่มีผลเลือดต่าง ก็ควรที่จะเริ่มพิจารณาการทานยาเพร็พได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพร็พ สามารถป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวีได้มากกว่า 95% ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัย เพราะถุงยางอนามัยยังช่วยในเรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นต้น
โดยยาเพร็พทานง่ายเพียงวันละ 1 เม็ด หรือทานตามความต้องการได้ คุณไม่จำเป็นต้องทานไปตลอดชีวิต สามารถเลือกทานในช่วงที่มีความเสี่ยงบ่อยได้ หากแต่งงาน หรือมีแฟนแล้วก็สามารถเลิกทานได้ ที่สำคัญผู้ที่จะทานยาเพร็พได้จะต้องไม่ใช่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาก่อนอยู่แล้ว และยาชนิดนี้ยังไม่สามารถหาซื้อออนไลน์ได้ เพราะจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทานยา และทำการตรวจเช็คร่างกายก่อนทุกครั้ง
รับยาเพร็พฟรีได้ที่ไหน ?
เพร็พกรุงเทพมหานคร
- คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง รามคำแหง
- มูลนิธิเพื่อนพนักงานการบริการ (SWING) สาขาสีลม
- มูลนิธิเพื่อนพนักงานการบริการ (SWING) สาขาสะพานควาย
- คลินิกชุมชนสีลม @ทรอปเมด
- คลินิกรักษ์เพื่อน โรงพยาบาลตากสิน
- คลินิกรักษ์เพื่อน โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
- มูลนิธิเอชไอวีเอเชีย
- คลินิกบัดดี้จุฬา
เพร็พชลบุรี
- มูลนิธิเพื่อนพนักงานการบริการ (SWING) สาขาพัทยา
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง ชลบุรี
เพร็พเชียงใหม่
- ศูนย์สุขภาพแคร์แมท เชียงใหม่ (CAREMAT)
- มูลนิธิเอ็มพลัส เชียงใหม่ (M-PLUS)
เพร็พอุดรธานี
- มูลนิธิเอ็มเฟรนด์ (M-FRIENDS)
เพร็พสงขลา
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง หาดใหญ่
เพร็พอุบลราชธานี
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง อุบลราชธานี
จองตรวจเอชไอวีฟรีที่นี่ love2test.org
การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ การตรวจเอชไอวีเองก็เช่นกัน อยากให้มองว่าการตรวจเลือดเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆ ก็ไปตรวจเช็คสุขภาพทางเพศของตนเอง ทุกคนมี sex ได้เพียงแต่เราต้องมีความมั่นใจว่า ตัวเองเตรียมพร้อมในการป้องกันได้ถูกวิธีแล้ว หรือยังครับ