ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ บัตรทองเพิ่มสิทธิใหม่ ดูแลครบวงจรคนข้ามเพศ

ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ บัตรทองเพิ่มสิทธิใหม่ ดูแลครบวงจรคนข้ามเพศ

วันที่ 7 กันยายน 2568 นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง” เมื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประกาศอนุมัติ สิทธิประโยชน์บริการ ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและสิทธิด้านสุขภาพของกลุ่มคนข้ามเพศที่รอคอยมานาน

Love2Test

นพ.นิธิวัชร์ แสงเรือง ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า “สิทธิดังกล่าวมีที่มาจากข้อเรียกร้องของกลุ่มคนข้ามเพศที่ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีในสมัยก่อนหน้า และได้รับการสานต่อเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ นักวิชาการ และวิชาชีพทางการแพทย์ จนพัฒนาสู่การบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบบัตรทองในที่สุด”

ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ สำคัญอย่างไร?

ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ หรือ Gender-Affirming Hormone Therapy คือการใช้ยาฮอร์โมนเพื่อช่วยปรับร่างกายให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลที่เพศกำเนิดไม่ตรงกับเพศสภาพที่ตนเองรับรู้ การได้รับฮอร์โมนที่เหมาะสม จะช่วยให้คนข้ามเพศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความทุกข์ทางจิตใจ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น

Love2Test
  • ชายเป็นหญิง (Transgender Women): ใช้ฮอร์โมนเพื่อบล็อกฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้เสียงอ่อนลง สะโพกผายขึ้น หนวดเคราลดลง
  • หญิงเป็นชาย (Transgender Men): ส่วนใหญ่ใช้ยาฉีดฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เสียงห้าวขึ้น มีกล้ามเนื้อและหนวดเคราชัดเจน

การเข้าถึงบริการนี้จึงไม่ใช่เรื่องเสริมสวยหรือแฟชั่น แต่เป็น การรักษาด้านสุขภาพที่จำเป็น และเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีชีวิตที่เท่าเทียม

งบประมาณและการสนับสนุนจาก สปสช.

เพื่อให้บริการฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพเข้าถึงได้จริง สปสช. ได้อนุมัติงบประมาณเริ่มต้น 140 ล้านบาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านยา การตรวจสุขภาพ และบริการปรึกษาทางการแพทย์ หากความต้องการใช้บริการเกินเป้าหมาย จะมีการจัดสรรงบเพิ่มเติมในปีถัดไป

ปัจจุบัน สปสช. อยู่ระหว่างจัดซื้อยาเพื่อกระจายไปยังหน่วยบริการในภูมิภาค ขณะที่โรงพยาบาลและคลินิกในกรุงเทพฯ รวมถึงบางพื้นที่ที่มีการให้บริการอยู่เดิมยังคงดำเนินการต่อเนื่อง โดยจะมีการทดแทนด้วยยาจาก สปสช. ในภายหลัง

“PrEPLove2Test"

ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ สิทธิประโยชน์ใหม่ภายใต้บัตรทอง

ภายใต้สิทธิบัตรทอง กลุ่มคนข้ามเพศสามารถเข้ารับบริการฮอร์โมนข้ามเพศ ได้ทั้งแบบ ยาเม็ดและยาฉีด โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เช่น อายุ ภาวะสุขภาพเดิม และผลการตรวจร่างกาย เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด สิทธิประโยชน์นี้ไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่ “การจ่ายยา” เท่านั้น แต่เป็นการดูแลแบบครบวงจร โดยมีรายละเอียดดังนี้:

การให้คำปรึกษาอย่างรอบด้าน

ก่อนเริ่มใช้ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ ผู้รับบริการ จะต้องผ่านขั้นตอนให้คำปรึกษา จากทีมสหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา เพื่อช่วยประเมินความพร้อม ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงอธิบายถึงข้อดีและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ การปรึกษานี้ยังช่วยให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย และสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

การตรวจร่างกายและตรวจเลือด

การตรวจสุขภาพของผู้รับบริการ เป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะการใช้ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพในระยะยาว อาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย สิทธิประโยชน์บัตรทองนี้ ครอบคลุมการตรวจเลือดและการตรวจสุขภาพประจำ เช่น ตรวจคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต การทำงานของตับ ไต และหัวใจ เพื่อประเมินความปลอดภัยในการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

หลังจากเริ่มใช้ฮอร์โมนแล้ว ผู้รับบริการจะต้องเข้ารับการติดตามผลตามรอบที่กำหนด ได้แก่ ทุก 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี หรือ 2 ปี ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงและผลการตรวจที่ผ่านมา การติดตามต่อเนื่องนี้ช่วยให้แพทย์สามารถปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจว่าการใช้ฮอร์โมนเป็นไปอย่างปลอดภัย

การใช้ Telemedicine

นวัตกรรมด้านการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิประโยชน์ใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลหรือคลินิก การติดตามผลและการปรึกษากับแพทย์ผ่านระบบออนไลน์จะช่วยลดภาระการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย และทำให้ผู้รับบริการได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องแม้ไม่ได้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตนเอง

กล่าวได้ว่าสิทธิประโยชน์ “ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ” ภายใต้บัตรทอง ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลือกการรักษา แต่ยังออกแบบมาเพื่อสร้างระบบการดูแลสุขภาพที่รอบด้าน ครอบคลุมทั้งมิติทางกายและใจ เพื่อให้กลุ่มคนข้ามเพศในประเทศไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ขั้นตอนการเข้ารับบริการ ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ

ขั้นตอนการเข้ารับบริการ ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ

ผู้ที่ต้องการรับบริการ ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ ภายใต้สิทธิบัตรทอง ต้องผ่านกระบวนการดังนี้:

ขั้นตอน รายละเอียด
1. การปรึกษาเบื้องต้น เข้ารับการประเมินกับทีมสหวิชาชีพ
เช่น แพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา
เพื่อประเมินความสอดคล้องของเพศกำเนิดและเพศสภาพ
2. ตรวจสุขภาพและจิตใจ ตรวจโรคและภาวะที่อาจเป็นข้อห้าม
เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือภาวะซึมเศร้า
3. รับข้อมูลความเสี่ยง ได้รับคำอธิบายผลดี ผลเสียของการใช้ฮอร์โมน
เช่น ภาวะแพ้ยา เสี่ยงเส้นเลือดสมองตีบ มะเร็งเต้านม
หรือการเปลี่ยนแปลงทางกายที่ไม่อาจย้อนกลับ
4. เริ่มการรักษา เริ่มใช้ฮอร์โมนตามรูปแบบที่เหมาะสม (ยาเม็ดหรือยาฉีด)
ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
5. ติดตามผลต่อเนื่อง เข้ารับการตรวจเลือดและปรึกษาแพทย์ตามรอบที่กำหนด
เพื่อติดตามผลและปรับการรักษาให้ปลอดภัย

Telemedicine: ทางเลือกใหม่ของการดูแลคนข้ามเพศ

หนึ่งในจุดเด่นของสิทธิใหม่ครั้งนี้ คือการใช้ ระบบ Telemedicine ที่ช่วยให้คนข้ามเพศสามารถปรึกษาแพทย์และติดตามระดับฮอร์โมนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและมีระดับฮอร์โมนคงที่ ซึ่งช่วยลดภาระค่าเดินทางและเพิ่มความสะดวกสบาย

บริการที่ครอบคลุม ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ

ในระยะแรก สปสช. จะเริ่มให้บริการผ่านหน่วยงานที่มีความพร้อมก่อน เช่น โรงเรียนแพทย์ในจังหวัดใหญ่ และคลินิกที่มีการให้บริการอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างพัฒนารูปแบบบริการเพื่อขยายสู่จังหวัดต่าง ๆ อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ สปสช. จะเผยแพร่รายชื่อโรงพยาบาลและคลินิกที่เข้าร่วมให้บริการบนเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย แต่หากมีความต้องการปรึกษาการใช้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://love2test.org

เสียงสะท้อนจากชุมชนคนข้ามเพศ

การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านฮอร์โมนข้ามเพศ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชุมชนคนข้ามเพศ หลายคนมองว่านี่คือ “ก้าวประวัติศาสตร์” ที่ทำให้ประเทศไทยขยับเข้าใกล้ความเท่าเทียมมากขึ้น ที่ผ่านมา คนข้ามเพศจำนวนมากต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง บางรายเข้าถึงยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือซื้อยาฮอร์โมนจากช่องทางออนไลน์โดยไม่มีการดูแลทางการแพทย์ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนด้านสุขภาพ การมีสิทธิภายใต้บัตรทองจึงช่วยลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างแท้จริง

เสียงสะท้อนจาก ชุมชนคนข้ามเพศ

มิติด้านสังคมและสิทธิมนุษยชน

สิทธิการเข้าถึงฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกายและใจ แต่ยังเชื่อมโยงกับ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน การที่รัฐบรรจุบริการนี้ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงสะท้อนถึงการยอมรับความหลากหลายทางเพศในระดับนโยบาย นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ที่เน้นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมทุกคน

ความท้าทายที่ยังต้องเดินต่อ

แม้การบรรจุสิทธิฮอร์โมนข้ามเพศ จะถือเป็นความก้าวหน้า แต่ก็ยังมีความท้าทายหลายประการ เช่น

  • การขยายบริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
  • การสร้างความเข้าใจแก่บุคลากรทางการแพทย์บางส่วนที่ยังมีอคติ
  • การจัดงบประมาณอย่างเพียงพอและยั่งยืนในระยะยาว
  • การให้ความรู้แก่สังคมเพื่อลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศ

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บทสรุป: จุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพที่เท่าเทียม

การบรรจุสิทธิ “ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ” ในระบบบัตรทองคือก้าวสำคัญของประเทศไทย ที่ไม่เพียงแต่ช่วยดูแลสุขภาพคนข้ามเพศอย่างครบวงจร แต่ยังเป็นการยืนยันว่า สิทธิด้านสุขภาพเป็นสิทธิของทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สปสช. และกระทรวงสาธารณสุขยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบบริการให้ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา การตรวจสุขภาพ และการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Telemedicine เพื่อให้การดูแลคนข้ามเพศในประเทศไทยมีคุณภาพ ปลอดภัย และเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น

นี่ไม่ใช่เพียงข่าวดีของกลุ่มคนข้ามเพศเท่านั้น แต่คือก้าวย่างสำคัญของสังคมไทยทั้งหมดในการเคารพความหลากหลายและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

อ้างอิงข้อมูลจาก:

สปสช. เปิดสิทธิฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพในบัตรทอง ดูแลครบวงจรกลุ่มคนข้ามเพศ

  • https://www.hfocus.org/content/2025/09/35203

สปสช.แจงรายละเอียดสิทธิประโยชน์ บริการฮอร์โมนสำหรับคนข้ามเพศ

  • https://prachatai.com/journal/2025/09/114541

สปสช.แจงรายละเอียด สิทธิประโยชน์ ‘บริการฮอร์โมน’ สำหรับคนข้ามเพศ

  • https://www.thecoverage.info/news/content/9584

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า