โดยปกติแล้ว ช่วงแรกผู้ที่รับเชื้อเอชไอวี เข้าสู่ร่างการ อาการของเอชไอวี จะไม่มีอาการใดๆ แสดงให้เห็น แต่กับบางคนจะมีอาการเจ็บคอ มีอาการเป็นไข้ และต่อมน้ำเหลืองโตได้ หรืออาจจะเป็นผื่นคันตามร่างกาย อาการจะปรากฏประมาณหนึ่งถึงสี่สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ หรือสัมผัสกับเชื้อมาก เรียกว่าติดเชื้อระยะแรก มีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด เป็นอาการเริ่มแรก และอาการมักจะหายหลังจากหหนึ่งสัปดาห์
แต่เชื้อยังคงทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อ่อนแอเรื่อยๆ และช่วงสองสามเดือนหลังจากติดเชื้อ เชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้น ปริมาณเชื้อไวรัสจะเพิ่มสูงขึ้นการรักษา ตามลำดับ
เอชไอวี คืออะไร ?
เอชไอวี (HIV) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และติดเชื้อได้ง่าย เชื้อเอชไอวี ติดต่อได้ 4 ช่องทางหลักๆ ได้แก่
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน
- การรับเลือด หรือผลิตภัณฑ์จากเลือดจากผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
- จากแม่สู่ลูกในระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร หรือการให้นมบุตร
อาการของเอชไอวี แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเอชไอวี รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะมีอาการ และความผิดปกติแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
อาการของเอชไอวีระยะเฉียบพลัน (Acute HIV Infection)
เอชไอวีเป็นระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ ระยะตั้งต้นเมื่อติดเชื้อไวรัสใหม่ๆ ในระยะนี้ผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมา จึงดูเหมือนคนมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนคนปกติ แต่อาจจะเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ จากระยะแรกเข้าสู่ระยะต่อไปโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 7 – 8 ปี แต่บางคนอาจไม่มีอาการนานถึง 10 ปี จึงทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อต่อไปให้กับบุคคลอื่นได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ
อาการของเอชไอวีระยะแฝง (Asymptomatic HIV Infection)
ผู้ป่วยจะไม่มีอาการใดๆ แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย และทำลายภูมิคุ้มกัน (CD4) ของร่างกาย ระยะแฝงนี้อาจยาวนานหลายปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
อาการของเอชไอวี ระยะเอดส์เต็มขั้น (Full Blown AIDS) หรือ ระยะ โรคเอดส์
ในระยะนี้ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะถูกทำลายลงไปมาก ทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย หรือที่เรียกว่า “โรคติดเชื้อฉวยโอกาส” ซึ่งมีหลายชนิด แล้วแต่ว่าจะติดเชื้อชนิดใด และเกิดที่ส่วนใดของร่างกาย หากเป็นวัณโรคที่ปอด จะมีอาการไข้เรื้อรัง ไอเป็นเลือด ถ้าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อ Cryptococcus จะมีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง คอแข็ง คลื่นไส้อาเจียน
หากเป็น โรคเอดส์ ของระบบประสาทก็จะมีอาการความจำเสื่อม ซึมเศร้า แขนขาอ่อนแรงเป็นต้น ส่วนใหญ่เมื่อผู้เป็นเอดส์เข้าสู่ระยะสุดท้ายนี้แล้ว โดยทั่วไปจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1 – 2 ปี
การป้องกันเอชไอวี
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเอชไอวี คือ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ทราบสถานะการติดเชื้อ และควรตรวจร่างกายเป็นประจำ
การรักษา อาการของเอชไอวี
เอชไอวีไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมได้ ด้วยการรับประทานยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy) ยาต้านไวรัสจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเอชไอวี ทำให้ระดับ CD4 ของร่างกายเพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนได้
ค้นหาสถานที่ตรวจเอชไอวีทั่วประเทศ คลินิคตรวจเอชไอวี
สรุป เอชไอวี เมื่อรู้เร็ว รักษาเร็ว คุณก็จะมีชีวิตที่อยู่ได้ ตามปกติ และนอกจากนี้ยังสามารถวางแผนการดำเนินชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการของเอชไอวี ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจ และรักษาโดยเร็วที่สุด