จากซีรีส์สู่ภาพยนตร์ Netflix นำเสนอความหลากหลายของนักแสดงอย่างไร

Netflix

มีการทำวิจัยเรื่อง Netflix หรือ เน็ตฟลิกซ์ที่ตอนนี้มีความหลากหลายในด้านตัวแสดงมีการรวมคนหลายๆ กลุ่มมากขึ้นกว่าหนังที่ฉายในโรงแล้วน่าสนใจดีทำให้เห็นว่า เน็ตฟลิกซ์ มีการพัฒนาด้านคอนเทนท์มากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านๆ มาจากข้อมูลวิจัยจาก USC Annenberg Inclusion Initiative ปี พ.ศ.2023 แสดงให้เห็นว่า เน็ตฟลิกซ์ จัดลำดับความสำคัญของเรื่องราวของผู้หญิง ในขณะที่ชาวละติน LGBTQ+ และการเป็นตัวแทนผู้พิการจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงให้มีครอบคลุมมากขึ้น

การให้ความสำคัญของความหลากหลายไม่ใช่เพียงนักแสดงแต่รวมถึงทีมงานด้วย

Shonda Rhimes ผู้สร้าง “Bridgerton” และซีรีส์ “Queen Charlotte: A Bridgerton Story” ที่กำลังจะเข้าฉาย เป็นที่รู้จักจากการสร้างเรื่องราวบนหน้าจอที่ต้องการส่งหลังให้ผู้หญิงเป็นหลัก (โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสี) และตัวละครที่หลากหลายทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ อัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ และทางเพศ

ซึ่ง Rhimes ให้ความสำคัญของทีมงานผลิตด้วยที่ต้องมีความหลากหลายไม่ใช่แค่ตัวนักแสดงเพียงอย่างเดียว“คุณมองไปรอบๆ เป็นเรื่องดีที่มีผู้กำกับผิวดำ นักเขียนผิวดำ และนักแสดงผิวดำแต่นอกจากนั้นทีมงานทั้งหมดก็ยังไม่ได้มาจากตัวแทนความหลากหลายของผู้คนบนโลกจริงๆ” Rhimes กล่าวในการประชุมสัมมนาเสมือนจริง

เบลา บาจาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหาของ เน็ตฟลิกซ์ สก็อตต์ สตูเบอร์ ประธานภาพยนตร์ของ เน็ตฟลิกซ์, ไทเลอร์ เพอร์รี ผู้สร้างภาพยนตร์ (“A Jazzman’s Blues,” “A Madea Homecoming”) และนักวิจัย ดร.สเตซี่ สมิธ“หากคุณมีโปรดิวเซอร์ที่เข้าใจกับสิ่งที่คุณรู้สึกทีมงานของคุณจะเป็นทีมงานที่สุดยอดเลยทีเดียวเขาจะพูดแทนโลกนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั่นคือเหตุผลที่บริษัทโปรดักชั่นอย่าง Shondaland

Netflix ร่วมมือกันในโครงการ DEIA ทั้งสองโครงการ

โปรแกรม Ladder และ Producers Inclusion Initiative ซึ่งฝึกอบรมผู้คนจากชุมชนที่ด้อยโอกาสในอดีตให้เป็นโปรดิวเซอร์รายการภายในระบบสตูดิโอ ทั้งสองโครงการเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ของ เน็ตฟลิกซ์ ที่ตั้งใจในการสร้างความหลากหลาย และการไม่แบ่งแยกผ่านกองทุน Fund for Creative Equity ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 2021

โดย “Bridgerton” ซีซั่น 2 เป็นซีรีส์นำร่องโปรแกรม Ladder ในกองถ่ายเป็นทางการโดยมีเด็กฝึกหัด 6 คนในกองถ่าย “Queen Charlotte” ในสหราชอาณาจักร โดยบริษัท Shondaland และ เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก IATSE จะเปิดตัวโปรแกรม Ladder นี้ในสหรัฐอเมริกาซึ่งในปีนี้ในซีรีส์เรื่อง “The Residence” ที่กำลังจะเข้าฉาย ก็ผ่านโครงการนี้เช่นกันโดยคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม 13 คนในบทบาทการผลิต และด้านเทคนิคจากหลายแผนก

การศึกษาล่าสุดจากดร.สมิธ และทีมวิจัย USC เกี่ยวกับการตรวจสอบการรวมภาพยนตร์ และซีรีส์ที่เขียนบทของ Netflix

ตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 ทีมงานได้ตรวจสอบเรื่องราวของออรินัลซีรีส์ภาคภาษาอังกฤษจาก เน็ตฟลิกซ์ จำนวน 546 เรื่อง (ภาพยนตร์ 249 เรื่อง ซีรีส์ 297 เรื่อง) เพื่อทำวิจัย และตรวจสอบโปรเจ็กต์เหล่านี้ ประเมินโดยใช้เกณฑ์ชี้วัดที่ครอบคลุมหลายประการ ได้แก่ เพศ เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ (ทั้งนักแสดง และทีมงานเบื้อหลัง) รวมถึง LGBTQ+ และการเป็นตัวแทนด้านความพิการ ทีมงาน USC Annenberg ได้ทำการวิจัยเป็นครั้งแรกในปี 2019 และมีกำหนดจะดำเนินการศึกษาวิจัยแบบครอบคลุมทุกๆ สองปี จนถึงปี ค.ศ. 2026

“เราเห็นการเติบโตที่โดดเด่นในปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงที่เหลือ การบูรณาการเป็นไปได้ และจำเป็นเพื่อสะท้อนถึงโลกที่เราอาศัยอยู่” ดร. สมิธกล่าวในการนำเสนอวิดีโอที่สรุปงานวิจัย “

อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณากลุ่มอัตลักษณ์หลายกลุ่มแบบแยกส่วนเพื่อทำความเข้าใจว่าจุดใดมีความคืบหน้า และจุดใดที่ต้องการผลกำไรอย่างยิ่ง”

Dr. Smith เน้นย้ำข้อค้นพบ 5 ข้อจากการศึกษานี้:

  • Netflix ได้รับความเท่าเทียมทางเพศในบทบาทนำ ทั้งในภาพยนตร์ และซีรีส์ โดยเนื้อหา 55% มีผู้หญิง และเด็กผู้หญิง เป็นตัวแสดงนำ รวมถึงนักแสดงสมทบ โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 15% ในกลุ่มผู้สร้าง และผู้กำกับชาย ที่บอกเล่าเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยผู้หญิง
  • บริษัทผู้ผลิตส่งเสริมผู้นำสตรีในทีมงานเบื้องหลังในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม Women of Colour ในฐานะผู้กำกับซีรีส์เพิ่มขึ้นจาก 5.6% ในปี ค.ศ.2018 เป็น 11.8% ในปี ค.ศ.2021 และในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์ ได้จ้างผู้หญิงผิวสี 16 คนมากำกับภาพยนตร์ โดยที่ผู้หญิงในจำนวนเท่ากันได้รับการว่าจ้างให้กำกับภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุด ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา
  • เรื่องราวของ Netflix มุ่งเน้นไปที่คนผิวสีโดยนำเสนอตามสัดส่วนของเชื้อชาติ และชาติพันธุ์ของกลุ่มคนผิวดำ เอเชีย หรือหลายเชื้อชาติแม้ว่าการเป็นตัวแทนของตัวละครลาตินจะยังต่ำกว่าเกณฑ์วัดจำนวนประชากรก็ตาม ช่องว่างยังคงมีอยู่สำหรับชุมชนชาวตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ชนพื้นเมือง และชาวฮาวายพื้นเมือง/ชาวเกาะแปซิฟิกทั้งนี้รวมทั้งนักแสดงนำ และทีมเบื้องหลังเผยให้เห็นถึจุดบกพร่องในแง่ของการเข้าถึง และโอกาสโดยที่ผู้หญิงผิวสีมีความสำคัญเป็นตัวเอก ผู้หญิงผิวสีได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในฐานะผู้กำกับซีรีส์โดยที่นักเขียน และผู้สร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ในปี ค.ศ.2021ผู้หญิงผิวสี 8 คนทำงานเป็นผู้สร้างซีรีส์ โดยมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจาก 3.9% ในปี 2020 เป็น 9.5%
  • กลุ่ม LGBTQ+ ใน Netflix และการเป็นตัวแทนผู้พิการ จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง ในปี ค.ศ. 2021 ผู้นำภาพยนตร์ และซีรีส์ เน็ตฟลิกซ์ 20.3%/ผู้นำร่วมเป็นตัวละคร LGBTQ+ แต่ภาพยนตร์ และซีรีส์มากกว่าครึ่งหนึ่ง (55.1%) ไม่มีตัวละครที่พูดภาษาของ LGBTQ+ แม้ว่าตัวเลขเหล่านั้นจะลดลงในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม เน็ตฟลิกซ์ ยังไม่บรรลุถึงการนำเสนอตามสัดส่วนสำหรับบุคคลหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ โดยการแสดงภาพยังคงมุ่งเน้นไปที่ตัวละครเกย์ หรือชายรักชาย มากกว่าอัตลักษณ์ LGBTQ+ ทั้งหมด

ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้ Netflix มีโอกาสขยายเสียงของคนชายขอบ ไม่ว่าเพศ เชื้อชาติ หรือความหลากหลายต่างๆ ในฐานะบริษัทผู้ผลิต ซึ่งต่อไปหวังว่า Perry และ Rhimes จะยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างภาพยนตร์ และซีรีส์ภาคต่อไป จึงทำให้บริษัทมีการขยายโครงการ Emerging Filmmakers Initiative ที่เพิ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.2022 ที่ส่งเสริมในรูปแบบภาพยนตร์สั้นสำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ที่ยังขาดโอกาส โดยเฉพาะผู้หญิง และคนผิวสี เพื่อให้การเข้าถึง และสื่อสารเนื้อหาของคนกลุ่มความหลากหลายสามารถทำออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา และถูกต้องอีกด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า