จากกิจกรรมนฤมิตรไพรด์ ครั้งแรกในประเทศไทยที่จัดขึ้นเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากผู้คนทุกภาคส่วนทั้งรัฐ และเอกชน นฤมิตวิวาห์ ส่งผลให้เกิดการตระหนักรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่ของความหลากหลายทางเพศ และก่อนที่จะเวียนไปถึงงานนฤมิตรไพรด์ในปีนี้นั้น ทางผู้จัดได้มีการจัดกิจกรรมในเดือนของความรักอย่างกิจกรรมนฤมิตวิวาห์ขึ้นมา เพื่อต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ที่จะมาถึง โดยคาดการณ์ว่าจะมีคู่รักหลากหลายเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่าพันคนทั้งจากประเทศไทย และต่างประเทศ
นฤมิตวิวาห์ มาจากความฝัน
วาดดาว ชุมาพร ผู้ร่วมก่อตั้ง และจัดงานนฤมิตวิวาห์ กล่าวว่า นฤมิตวิวาห์ เป็นภาพความฝัน ที่เราต้องการจัดงานแต่งงาน 100 คู่ 100 ความรัก ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 “นี่คือเปิดศักราชใหม่ของการจัดตั้งครอบครัว ที่มีเพศหลากหลาย เป็นการยืนยันว่าสิทธิของครอบครัวเพศหลากหลายมีความหมาย และได้รับการโอบอุ้ม”
งานวิวาห์ที่ยืนยันสิทธิก่อตั้งครอบครัว และสมรสเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด Love Liberate and Festival จะจัดขึ้น ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย และสร้างพื้นที่วัฒนธรรมสาหรับชุมชน LGBTQIA+ ให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี ผ่านกิจกรรม Event การเฉลิมฉลอง Festival ด้วยแฟชั่น ดนตรี ศิลปะ แบ่งเป็น 3 โซน
- เวทีหลัก บริเวณสนามกีฬาที่จะถูกเนรมิตเป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้กับผู้ร่วมสมรสโดยเชฟ LGBTQIA+ ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และคอนเสิร์ตที่จะขับกล่อมเรื่องราวความรักอันหลากหลาย
- ลานพิธีวิวาห์ บริเวณด้านหน้าของสนามกีฬาที่จะจัดขึ้นตามความเชื่อของผู้ร่วมสมรส เช่น พิธีทราย พิธีสาบาน พิธีสวมแหวน ร่วมกับขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่เพื่อยืนยันให้กับความรักที่มีศักดิ์ศรี และเท่าเทียมของผู้ร่วมสมรส
- ลานกิจกรรม Love and Art บริเวณพื้นที่รอบสนามกีฬาที่จะถูกรังสรรค์โดยศิลปิน LGBTQIA+ ให้กลายเป็นนิทรรศการศิลปะ แกลเลอรีรูปภาพ และดนตรีกลางสวน
แถลงข่าวงาน นฤมิตวิวาห์
“ทีมงานนฤมิตไพรด์เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเปิดประตูให้สังคมเอเชียโอบรับความหลากหลายทางเพศ รวมถึงการผลักดันให้ LGBTQIA+ ได้รับการคุ้มครองสิทธิ และมีพื้นที่เติบโตในหลากหลายอาชีพอย่างมีศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจ และคุณภาพชีวิตที่ดี งานวิวาห์ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ สำนักงานเขตดินแดง ภาคธุรกิจ สื่อมวลชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ”
สำหรับการแถลงข่าววันนี้มี ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมในงานแถลงข่าว และมีคู่รัก LGBTQIA+ ที่เป็นคู่แรกที่กดลงทะเบียนร่วมกิจกรรมนฤมิตรวิวาห์บนเวที ได้เซอร์ไพรส์ในการขอคู่รักแต่งงาน รวมถึงมี ส.ส. จากหลากหลายพรรคการเมือง และนักกิจกรรมที่มาร่วมในงานแถลงข่าววันนี้อีกด้วย
เรื่องที่น่าสนใจไปพร้อมๆ กับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น คือ พื้นที่ความหลากหลายทางเพศที่มีได้รับการสนับสนุนมากพอรึยังจากผู้มีอำนาจ หรือเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่านั้นอย่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ล้วนแล้วแต่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าภาครัฐสามารถที่จะทำอะไรเพื่อซัพพอร์ตกับพื้นที่ตรงนี้ได้มากกว่านี้ไหม เพราะไม่ใช่แค่เพื่อคนหลากหลายทางเพศ แต่เพื่อทุกคนในสังคม เพราะความหลากหลายทางเพศก็ร่วมทุกคนเข้าด้วยกันทั้งหมด ไม่ใช่เพียงคนใดคนหนึ่งในตัวอักษร LGBTQAN+
หากดูจากสถานการณ์ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ณ ปัจจุบันแล้วยังถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะแม้จะผ่านร่างพรบ.รอบแรกเข้าไปในสภาแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสอีกมากที่จะถูกตีตก หรือดึงพรบ.คู่ชีวิตที่มีสิทธิน้อยกว่าผ่านเข้าไปแทน โดยความวิตกกังวลนี้เกิดมาจากคำวินิจฉัยของศาล รัฐธรรมนูญที่เคยตัดสินใจว่าการใช้คำนำหน้านาย หรือนางนั้นไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
นอกเหนือจากเรื่องทางกฎหมายแล้ว การสนับสนุนจากภาครัฐต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ในการสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ของความหลากหลาย เพราะพื้นที่ของการยอมรับความหลากหลาย เริ่มต้นจากความเข้าใจในความแตกต่างที่มนุษย์มีให้กันได้ จากปัจจุบันยังมีการพบว่าหลักสูตรการเรียนการสอน หรือหนังสือตำราเรียนบางประเภทยังมีค่านิยมที่ผิด หรือการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของภาครัฐที่จำเป็นจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และต้องช่วยส่งเสริมให้เกิดค่านิยมที่ถูกต้องขึ้นมาแทน
เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว ภาครัฐถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดค่านิยมแบบใดเกิดขึ้นกับสังคม มีอิทธิทางอ้อมมากมายที่บ่มเพาะขึ้นจากชีวิตประจำวันของเราที่ภาครัฐเองก็มีส่วนทำให้มันเป็นไปในทางที่เข้าใจมากขึ้น หรือลดลงก็ได้ อย่างเช่น หากเรามีการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และสอนให้ผู้คนที่ยังอยู่ในระบบการศึกษาเข้าใจถึงความแตกต่าง และความหลากหลายของผู้คนในสังคม ปัญหาของการเลือกปฏิบัติจะลดลง และผู้คนในสังคมเองก็จะมีความเข้าใจกันที่มากขึ้น
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2023 นี้ ก็นับว่ามีกิจกรรมอีกมากมายตลอดทั้งปีที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นงานเนรมิตไพรด์ครั้งที่สองที่จะเกิดขึ้น และนวราตรีเดินขบวน ผู้เขียนเองก็ได้แต่หวังว่าเราจะมีข่าวดีเกี่ยวกับกฎหมายที่สนับสนุนให้ทุกคนได้เท่าเทียมกันอย่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมไปถึงกิจกรรมอีกมากมายที่ละลายอคติในใจของคนที่ไม่สามารถยอมรับความแตกต่าง และความหลากหลายทางเพศได้ต่อไปเรื่อยๆ จนทั้งหมดกลายเป็นเรื่อง “ปกติ” ได้นั้นเอง