PrEP กับ PEP เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ป้องกันเอชไอวี โดยการใช้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV แต่มีจุดประสงค์ และวิธีใช้ที่แตกต่างกัน PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) คือ ยาต้านไวรัสที่รับประทานทุกวัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อเอชไอวี โดยสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีได้เกือบ 100% หากรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ PEP (Post-Exposure Prophylaxis) คือ ยาต้านไวรัสที่จะต้องรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง หลังสัมผัสกับเชื้อ ใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี โดยสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีได้กว่า 80% หากรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
PrEP กับ PEP คืออะไร ?
เพร็พ PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis)
- ยาที่ใช้ในการป้องกันเชื้อเอชไอวี (HIV) ก่อนมีความเสี่ยง
- กินทุกวัน ตรงเวลา วันละ 1 เม็ด
- ควรใช่ร่วมกับถุงยางอนามัย จะได้ป้องกันทั้งเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
- สามารถหยุดได้ เมื่อพบว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงแล้ว
เป็ป PEP (Post-Exposure Prophylaxis)
- ยาที่ใช้ในการป้องกันเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกรณีฉุกเฉิน
- สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือถุงยางอนามัยหลุด ถุงแตก ถุงรั่ว
- จะต้องเริ่มรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยง
- รับประทานติดต่อกันนาน 28 วัน
PrEP และ PEP เหมาะกับใคร ?
เพร็พ PrEP
- ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี
- ชายผู้มีเพศสัมพันธ์กับชาย
- ผู้ที่มีประวัติเคยรับบริการ PEP บ่อยๆ
- ผู้ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
เป็ป PEP
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผู้ที่ถุงยางอนามัยหลุด ถุงแตก ถุงรั่ว
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่เพิ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ขณะที่ไม่ได้สติ
- ผู้ที่มีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
PrEP และ PEP ราคาเท่าไหร่ ?
เพร็พ PrEP
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่ที่สำคัญสำหรับประชาชนชาวไทย โดยได้บรรจุยาเพร็พ (Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เป็นหนึ่งในบริการที่ครอบคลุมภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของเอชไอวีในประเทศไทย และส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียมสำหรับกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง
ในประเทศไทย ยาเพร็พมีให้บริการอย่างแพร่หลายและสามารถเข้าถึงได้ผ่านผู้ให้บริการด้านสุขภาพ คลินิก และองค์กรต่าง ๆ โดยมีตัวเลือกดังนี้:
- โรงพยาบาลประจำจังหวัด: โรงพยาบาลรัฐบาลในเมืองหลักและจังหวัดต่าง ๆ มีบริการยาเพร็พ
- องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs)
- คลินิกเอกชน
- หรือจองคิวออนไลน์ผ่าน Love2test ฟรีที่นี่
เป็ป PEP
- PEP เป็นยาต้านฉุกเฉิน และมีราคาที่ต่างกัน ตามสถานบริการโดยราคาเริ่มต้นที่ 1200 – 20,000 บาท แล้วแต่ชนิดของยา และดุลพินิจของแพทย์
วิธีทานยา PrEP และ PEP
เพร็พ PrEP
- Daily PrEP (เพร็พรายวัน)
- ทานก่อนมีความเสี่ยง 7 วัน
- ทานวันละ 1 เม็ด
- ทุกวัน และทานให้ตรงเวลา
On Demand PrEP (เพร็พเมื่อต้องการ)
- ทาน 2 เม็ดแรก ก่อนมีเพศสัมพันธ์ 2 – 24 ชั่วโมง
- ทาน 1 เม็ด หลังทานยาครั้งแรก 24 ชั่วโมง
- ทานอีก 1 เม็ด หลังทานยาครั้งแรก 48 ชั่วโมง
PEP (เป๊ปยาต้านฉุกเฉิน)
- ทานให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีความเสี่ยง
- ทานวันละ 1 เม็ด ให้ตรงเวลาเดิม
- ทานติดต่อกันนาน 28 วัน
ผลข้างเคียงของ PrEP และ PEP
PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis):
- ผลข้างเคียงที่พบบ่อยในช่วงเริ่มต้น ได้แก่ คลื่นไส้ ปวดหัว ท้องเสีย และอ่อนเพลีย ซึ่งมักจะดีขึ้นหลังจากร่างกายปรับตัวเข้ากับยา
- ในบางกรณีอาจส่งผลต่อการทำงานของไตและกระดูกได้ แต่พบได้ไม่บ่อยและมักเกิดกับผู้ที่ใช้ยาเป็นเวลานาน แพทย์จะติดตามการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงนี้
PEP (Post-Exposure Prophylaxis):
- ผลข้างเคียงของ PEP คล้ายกับ PrEP เช่น คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ท้องเสีย และปวดหัว
- บางคนอาจรู้สึกเวียนหัวหรือมีปัญหาทางเดินอาหารในช่วงระยะเวลาที่ใช้ยา ซึ่งยานี้ต้องใช้เป็นเวลา 28 วัน
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สรุปคือ PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) และ PEP (Post-Exposure Prophylaxis) เป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้อ HIV ที่มีประสิทธิภาพ PrEP ใช้สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ โดยต้องรับประทานยาทุกวันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ในขณะที่ PEP ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยต้องเริ่มภายใน 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัส ทั้งสองวิธีช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV แต่ควรใช้ร่วมกับการป้องกันอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรค