สปสช. อนุมัติงบ ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

สปสช. อนุมัติงบ ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 145.63 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยเน้นการสนับสนุน ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ซึ่งมีเป้าหมายดูแลกลุ่มเป้าหมายจำนวนกว่า 200,000 รายทั่วประเทศ การสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ เนื่องจากในอดีตผู้ที่ต้องการรับบริการ ยาฮอร์โมนบำบัด จำเป็นต้องจ่ายเงินเอง ซึ่งเป็นภาระทางการเงินและทำให้บางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ การขาดการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ยังเพิ่มความเสี่ยงจากการใช้ยาโดยไม่ได้รับคำแนะนำทางการแพทย์

สิทธิประโยชน์ใหม่นี้ไม่เพียงช่วยให้ “กลุ่มคนข้ามเพศ” สามารถเข้าถึงบริการ ยาฮอร์โมนบำบัด ได้อย่างปลอดภัย แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการ โดยช่วยให้ร่างกายของพวกเขาสอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศและความรู้สึกภายใน การดำเนินงานของ สปสช. ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนความเท่าเทียมด้านสุขภาพ และเพิ่มการเข้าถึงบริการที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม

Love2Test

ยาฮอร์โมนบำบัด คืออะไร?

ยาฮอร์โมนบำบัด หรือ Hormone Replacement Therapy (HRT) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ ฮอร์โมน เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสมกับอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล โดยเป็นวิธีที่สำคัญสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศที่ต้องการให้รูปลักษณ์และลักษณะทางกายภาพสอดคล้องกับเพศสภาพของตนเอง นอกจากนี้ ยาฮอร์โมนบำบัดยังใช้ในบางกรณีสำหรับการรักษาภาวะขาดฮอร์โมน เช่น ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หรือผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับคนข้ามเพศ

สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ยาฮอร์โมนบำบัดมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายสอดคล้องกับเพศที่พวกเขารู้สึกว่าเป็นจริง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่:

คนข้ามเพศหญิง (ชายสู่หญิง)

1. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)

เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางเพศหญิงและควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย ฮอร์โมนชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นในรังไข่ (Ovaries) เป็นหลัก และยังพบการผลิตในต่อมหมวกไตและไขมันในร่างกาย โดยเอสโตรเจน ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังพบในผู้ชายในระดับที่ต่ำกว่า

ประเภทของฮอร์โมนเอสโตรเจน

เอสโตรน (Estrone)
พบได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เป็นรูปแบบของเอสโตรเจนที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า
เอสตราดิออล (Estradiol)
พบมากที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีบทบาทสำคัญในรอบเดือนและการพัฒนาลักษณะเพศหญิง
เอสไตรออล (Estriol)
พบในระดับสูงในระหว่างตั้งครรภ์ ผลิตขึ้นจากรกเพื่อช่วยพัฒนาทารกในครรภ์

 

ยาฮอร์โมนบำบัด หรือ Hormone Replacement Therapy (HRT)

หน้าที่ของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย

  • การพัฒนาลักษณะทางเพศหญิง
    • กระตุ้นการพัฒนาอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น มดลูก ช่องคลอด และรังไข่
    • กระตุ้นการพัฒนาหน้าอกในวัยเจริญพันธุ์
    • ส่งเสริมการกระจายไขมันในร่างกาย เช่น บริเวณสะโพกและต้นขา
  • ควบคุมรอบเดือน
    • เอสโตรเจนมีบทบาทในการควบคุมรอบประจำเดือน โดยช่วยกระตุ้นการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
  • ส่งเสริมสุขภาพกระดูก
    • เอสโตรเจนช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูก และลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนในผู้หญิง
  • ควบคุมระบบหัวใจและหลอดเลือด
    • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
    • ช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • บทบาทในสมองและอารมณ์
    • เอสโตรเจนมีผลต่อสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน ซึ่งช่วยควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด และส่งเสริมการทำงานของสมอง
2. ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-androgens)

คือยาที่ใช้เพื่อลดผลกระทบของฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน (Androgen) เช่น ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในร่างกาย ยาประเภทนี้สามารถยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชายได้โดยการปิดกั้นตัวรับแอนโดรเจน (Androgen Receptors) ซึ่งช่วยลดผลกระทบที่ฮอร์โมนเพศชายมีต่อร่างกาย

ยาต้านฮอร์โมนเพศชายถูกนำมาใช้ในหลายกรณี เช่น การรักษาภาวะทางการแพทย์ หรือการใช้ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงเพศสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศหญิง (ชายสู่หญิง) เพื่อให้ร่างกายแสดงลักษณะทางเพศหญิงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

การใช้งานของยาต้านฮอร์โมนเพศชาย

  • กลุ่มคนข้ามเพศหญิง (ชายสู่หญิง)
    • บทบาทสำคัญในกระบวนการเปลี่ยนแปลงเพศ: ยาช่วยลดผลกระทบของฮอร์โมนเพศชาย เช่น การลดขนบนใบหน้าและร่างกาย เสียงที่ทุ้ม และความมันของผิว
    • ใช้ร่วมกับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน เพื่อเสริมสร้างลักษณะทางเพศหญิง เช่น การพัฒนาหน้าอก และการลดมวลกล้ามเนื้อ
  • การรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไปในผู้หญิง
    • ใช้รักษาโรคหรือภาวะที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศชาย เช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) หรือ ขนดกเกินในผู้หญิง (Hirsutism)
  • การรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
    • มะเร็งต่อมลูกหมากเจริญเติบโตจากฮอร์โมนเพศชาย ยาต้านฮอร์โมนเพศชายช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งในกรณีนี้
  • การรักษาภาวะศีรษะล้านจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgenic Alopecia)
    • ใช้ในผู้ชายและผู้หญิงที่ประสบปัญหาศีรษะล้านจากผลกระทบของฮอร์โมนเพศชายต่อรูขุมขน

คนข้ามเพศชาย (หญิงสู่ชาย)

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone)

เป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและรักษาลักษณะทางเพศชาย และมีส่วนในการควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การผลิตอสุจิ การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ และความหนาแน่นของกระดูก ฮอร์โมนชนิดนี้ผลิตขึ้นในลูกอัณฑะของผู้ชายเป็นหลัก และยังผลิตในต่อมหมวกไตในปริมาณเล็กน้อย นอกจากนี้ ผู้หญิงก็มีเทสโทสเตอโรนในระดับต่ำ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในรังไข่และต่อมหมวกไต

หน้าที่ของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกาย

  • พัฒนาลักษณะทางเพศชาย
    • กระตุ้นการพัฒนาลักษณะทางเพศชายในวัยเจริญพันธุ์ เช่น การขยายตัวของอวัยวะเพศชาย เสียงที่ทุ้มขึ้น และการเกิดขนตามร่างกาย
    • ส่งเสริมการผลิตอสุจิและการทำงานของระบบสืบพันธุ์
  • ส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ
    • เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
    • ส่งเสริมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
  • รักษาความหนาแน่นของกระดูก
    • มีบทบาทสำคัญในการรักษาความแข็งแรงของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • ส่งเสริมพลังงานและความมั่นใจ
    • เทสโทสเตอโรนช่วยเพิ่มพลังงาน ความต้องการทางเพศ และความมั่นใจในตนเอง
    • มีผลต่ออารมณ์และความสามารถในการจัดการกับความเครียด

ภาวะที่เกี่ยวข้องกับเทสโทสเตอโรน

ภาวะที่เกี่ยวข้องกับ
เทสโทสเตอโรน
สาเหตุ อาการ การรักษา
เทสโทสเตอโรนต่ำ (Low Testosterone) – อายุที่เพิ่มขึ้น– ความผิดปกติของลูกอัณฑะ

– โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หรือโรคอ้วน

– อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน– ลดความต้องการทางเพศ

– สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและกระดูก

ใช้ฮอร์โมนทดแทน (TRT) ภายใต้การดูแลของแพทย์
เทสโทสเตอโรนสูง (High Testosterone) – การใช้ฮอร์โมนเสริมเกินขนาด– เนื้องอกที่ผลิตฮอร์โมน – สิวและผิวมัน– พฤติกรรมก้าวร้าว

– เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปรับการใช้ฮอร์โมนภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ประโยชน์ของ ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

ประโยชน์ของ ยาฮอร์โมนบำบัด สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

ประโยชน์หลักของยาฮอร์โมนบำบัด

  • การพัฒนาลักษณะทางเพศที่ตรงกับอัตลักษณ์
    • สำหรับผู้หญิงข้ามเพศ ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน และยาต้านฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มลักษณะทางเพศหญิง เช่น:
      • การพัฒนาหน้าอก
      • การลดขนตามร่างกาย
      • การทำให้ผิวดูเนียนและนุ่มขึ้น
      • การลดมวลกล้ามเนื้อและไขมันในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับผู้หญิง
    • สำหรับผู้ชายข้ามเพศ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ช่วยพัฒนาลักษณะทางเพศชาย เช่น:
      • การเพิ่มขนบนใบหน้าและร่างกาย
      • การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
      • การปรับเสียงให้ทุ้มขึ้น
      • การกระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศชาย
  • การลดความเครียดจากความไม่ตรงกันของเพศ
    • คนข้ามเพศประสบกับความทุกข์ที่เกิดจากความไม่ตรงกันระหว่างเพศสภาพและร่างกาย (Gender Dysphoria) ยาฮอร์โมนบำบัดช่วยลดความไม่สบายใจและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
  • การส่งเสริมสุขภาพจิต
    • การที่ร่างกายมีลักษณะสอดคล้องกับเพศสภาพช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด และภาวะซึมเศร้า ซึ่งมักเกิดจากการถูกตีตราหรือความไม่ยอมรับในสังคม
  • การเพิ่มคุณภาพชีวิต
    • ยาฮอร์โมนบำบัดช่วยให้คนข้ามเพศมีความมั่นใจในตัวเองและสามารถแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่
    • ความมั่นใจในรูปลักษณ์ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและสังคม
  • การลดพฤติกรรมเสี่ยง
    • การได้รับยาฮอร์โมนบำบัดอย่างเหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ฮอร์โมนที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการซื้อยาด้วยตนเอง

ประโยชน์เพิ่มเติมในด้านสุขภาพ

  • การปรับสมดุลของฮอร์โมน
    • ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล เช่น อารมณ์แปรปรวน หรือปัญหาทางสุขภาพกาย
  • การส่งเสริมสุขภาพกระดูก
    • ฮอร์โมนเอสโตรเจนในหญิงข้ามเพศ ช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
    • ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในชายข้ามเพศ ช่วยเพิ่มมวลกระดูกและความแข็งแรง
  • การควบคุมระบบเมตาบอลิซึม
    • ฮอร์โมนช่วยส่งเสริมระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักและมวลกล้ามเนื้อ

ผลดีของนโยบายสนับสนุน ยาฮอร์โมนบำบัด

1. ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนข้ามเพศ

นโยบายนี้ช่วยลดความเครียดและความกดดันที่เกิดจากการขาดการสนับสนุนทางสุขภาพ ช่วยให้คนข้ามเพศสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจและเต็มศักยภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม

2. ลดการเลือกปฏิบัติและการตีตรา

การจัดสรรสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพให้กับกลุ่มคนข้ามเพศ ช่วยลดการเลือกปฏิบัติและความไม่เท่าเทียมในระบบบริการสุขภาพ นอกจากนี้ ยังสร้างความตระหนักรู้ในสังคมถึงความสำคัญของความหลากหลายทางเพศ และส่งเสริมการยอมรับในชุมชน

3. ส่งเสริมสุขภาพระยะยาว

การเข้าถึงยาฮอร์โมนที่ได้มาตรฐานช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ยาที่ไม่ได้คุณภาพหรือการใช้ยาเองโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา และการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนข้ามเพศในระยะยาว

ผลดีของนโยบายสนับสนุน ยาฮอร์โมนบำบัด

แนวทางสนับสนุนกลุ่มคนข้ามเพศในอนาคต

การสร้างสังคมที่ยอมรับและสนับสนุนกลุ่มคนข้ามเพศต้องอาศัยแนวทางเชิงรุกในหลายด้าน ทั้งด้านนโยบาย กฎหมาย การศึกษา และการดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุม เพื่อให้กลุ่มคนข้ามเพศได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

  1. การพัฒนานโยบายและกฎหมายที่ครอบคลุม
    • การส่งเสริมสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมาย
      • สนับสนุนการแก้ไขเอกสารทางกฎหมาย เช่น การเปลี่ยนชื่อและเพศในบัตรประชาชนให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ
      • ส่งเสริมสิทธิในการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันและคนข้ามเพศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิที่เท่าเทียม เช่น การประกันสุขภาพ การรับบุตรบุญธรรม และสิทธิทางกฎหมายอื่น ๆ
    • การออกนโยบายด้านสุขภาพเฉพาะกลุ่ม
      • เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางสุขภาพ เช่น การเข้าถึง ยาฮอร์โมนบำบัด การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ และบริการสนับสนุนทางจิตวิทยา
      • สนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของฮอร์โมนบำบัดในระยะยาว เพื่อพัฒนาการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมยิ่งขึ้น
    • การป้องกันการเลือกปฏิบัติ
      • ออกกฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติในทุกมิติ เช่น การจ้างงาน การศึกษา การเข้ารับบริการสุขภาพ และการเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ
  2. การให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ในสังคม
    • การให้ความรู้ในโรงเรียน
      • เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในหลักสูตรเพศศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศตั้งแต่วัยเยาว์
      • ฝึกอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนข้ามเพศ
    • การรณรงค์ผ่านสื่อสาธารณะ
      • จัดกิจกรรมและโครงการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ และลดการตีตรา
      • ส่งเสริมการนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนข้ามเพศในสื่อ เช่น ภาพยนตร์ ละคร หรือบทความ เพื่อสร้างความเข้าใจและลดอคติ
    • การอบรมในองค์กร
      • จัดอบรมในสถานที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างความเท่าเทียมและลดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนข้ามเพศ
      • ส่งเสริมให้นายจ้างสนับสนุนการจ้างงานคนข้ามเพศ และสร้างพื้นที่ที่เป็นมิตรในองค์กร
  3. การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
    • การจัดตั้งคลินิกเฉพาะทางสำหรับคนข้ามเพศ
      • จัดตั้งคลินิกหรือศูนย์สุขภาพที่ให้บริการเฉพาะสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ เช่น การให้คำปรึกษา การตรวจสุขภาพทางเพศ การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ และการสนับสนุนทางจิตวิทยา
    • การฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์
      • ฝึกอบรมแพทย์และพยาบาลให้มีความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศ และสามารถให้บริการสุขภาพที่เหมาะสมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
    • การเพิ่มการเข้าถึงยาฮอร์โมน
      • ลดอุปสรรคในการเข้าถึง ยาฮอร์โมนบำบัด เช่น การลดค่าใช้จ่าย การขยายสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสุขภาพ และการเพิ่มช่องทางการเข้ารับบริการในพื้นที่ชนบท
  4. การสนับสนุนด้านสุขภาพจิต
    • การให้คำปรึกษาเฉพาะทาง
      • จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาและสุขภาพจิตเฉพาะสำหรับคนข้ามเพศ เพื่อลดความเครียด ความวิตกกังวล และปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดจากการตีตราหรือการไม่ยอมรับในสังคม
    • การสนับสนุนทางครอบครัว
      • จัดกิจกรรมหรือโปรแกรมให้คำปรึกษาสำหรับครอบครัวของคนข้ามเพศ เพื่อสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนที่ดีในระดับครอบครัว
  5. การสนับสนุนเศรษฐกิจและการจ้างงาน
    • การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
      • ส่งเสริมการจัดตั้งธุรกิจหรือโครงการที่สร้างงานให้กับคนข้ามเพศ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในด้านการจ้างงาน
      • สนับสนุนการให้สินเชื่อหรือเงินทุนสำหรับธุรกิจที่ดำเนินโดยกลุ่มคนข้ามเพศ
    • การป้องกันการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน
      • ออกนโยบายในองค์กรที่สนับสนุนความเท่าเทียม เช่น การใช้ห้องน้ำที่เหมาะสมกับเพศสภาพ และการยอมรับในอัตลักษณ์ทางเพศของพนักงาน
  6. การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน
    • การจัดตั้งเครือข่ายสนับสนุน
      • สร้างกลุ่มสนับสนุนสำหรับคนข้ามเพศในชุมชน เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ
    • การสร้างพื้นที่ที่เป็นมิตร
      • ส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่เน้นความหลากหลายและความเท่าเทียมในชุมชน เช่น งานเทศกาลหรือกิจกรรมรณรงค์

“ยาฮอร์โมนบำบัดไม่ใช่แค่การปรับสมดุลฮอร์โมน แต่เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มคนข้ามเพศปรับร่างกายให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศ ลดความทุกข์จากความไม่ตรงกันของเพศสภาพและร่างกาย เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง และส่งเสริมคุณภาพชีวิต ยานี้จึงเป็นมากกว่าการรักษาทางการแพทย์ แต่เป็นการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและสร้างความเท่าเทียมในสังคม”

คำถามที่พบบ่อย

ฮอร์โมนเพศจะแบ่งออกตามเพศกำเนิด คือ ฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือเทสโทสเทอโรน (Testosterone)

▷ ไม่ควรซื้อยามาใช้เองโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ การใช้ยาโดยไม่มีการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการบำบัดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา

▷ การตรวจสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญในระหว่างการบำบัด เช่น การตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับฮอร์โมน และการตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและปรับการรักษาให้เหมาะสม

▷ ผลลัพธ์ของยาฮอร์โมนบำบัดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นได้ในช่วง 3-6 เดือนแรก และอาจใช้เวลาหลายปีเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์

▷ ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้น เช่น สิว ความดันโลหิตสูง การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ หรือความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด ขึ้นอยู่กับชนิดของฮอร์โมนและปริมาณที่ใช้ ควรติดตามผลภายใต้การดูแลของแพทย์

▷ ควรเลือกใช้ฮอร์โมนที่มีผลข้างเคียงตํ่า และปรับขนาดฮอร์โมน ให้ถูกต้องกับสภาพร่างกาย หาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนที่ถูกต้อง รวมทั้งอันตรายของการใช้ยาเกินขนาด ตรวจระดับฮอร์โมน และตรวจติดตามผลข้างเคียงระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ฮอร์โมน

▷ การใช้ฮอร์โมนบำบัดจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางสุขภาพ และอัตลักษณ์ทางเพศของคุณ รวมถึงคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไป การใช้ฮอร์โมนบำบัดในกลุ่มคนข้ามเพศอาจจำเป็นต้องใช้ในระยะยาว หรือบางครั้งตลอดชีวิต เพื่อรักษาลักษณะทางเพศที่ต้องการ

▷ โดยทั่วไปสามารถเริ่มต้นได้ในช่วงวัยรุ่นหรือหลังอายุ 18 ปี แต่ในบางกรณีอาจเริ่มต้นก่อนหน้านี้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

▷ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสุขภาพทั่วไป และตรวจระดับฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายและความคาดหวังของการบำบัด

▷ ไม่จำเป็นเสมอไป การใช้ยาฮอร์โมนบำบัดสามารถช่วยให้ร่างกายแสดงลักษณะทางเพศที่ต้องการได้โดยไม่ต้องผ่าตัด การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

การที่สปสช. อนุมัติงบสำหรับยาฮอร์โมนบำบัดในกลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นก้าวสำคัญของการสนับสนุนสิทธิทางสุขภาพที่เท่าเทียมและการยอมรับในความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย นโยบายนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนข้ามเพศ แต่ยังส่งเสริมความเข้าใจในสังคมเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการเข้าถึงบริการที่เท่าเทียม หากคุณหรือคนใกล้ชิดเป็นกลุ่มคนข้ามเพศ อย่าลังเลที่จะศึกษาสิทธิประโยชน์ที่คุณสามารถเข้าถึงได้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ยอมรับและสนับสนุนทุกความหลากหลาย! หรือหากต้องการตรวจฮอร์โมนสำหรับผู้หญิงข้ามเพศ สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านสถานบริการเหล่านี้ได้ที่ www.love2test.org

อ้างอิงข้อมูลจาก:

จัดงบ 145.63 ล้านบาท เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ “ยาฮอร์โมน” ดูแลกลุ่มคนข้ามเพศ

  • pptvhd36.com/health/news/6462

‘สมศักดิ์’ มอบ สปสช. เดินหน้าสิทธิประโยชน์ ‘ฮอร์โมน’ สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

  • thecoverage.info/news/content/8064

รัฐบาลเดินหน้านโยบายรองรับบริการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

  • thaigov.go.th/news/contents/details/92731

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า