ในเรื่องของ ยาเพร็พแบบฉีด หรือยาเพร็พ (PrEP) นั้น คือ ยาต้านไวรัสเอชไอวีสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในผู้ที่มีผลเลือดลบ ก่อนมีการสัมผัสที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ก่อนหน้านี้ที่ใช้กันอยู่นั้น ยาเพร็พ จะเป็นยาชนิดเม็ด ของทรูวาด้า (Truvada) และเดสโควี (Descovy) โดยผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี จะต้องกินยาเพร็พทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์
แต่ตอนนี้ได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเป็น ยาเพร็พแบบฉีด ซึ่งองค์การอาหาร และยาสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี ก่อนมีการสัมผัสที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือ เพร็พ แบบฉีด ชนิดแรกแล้ว
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นยาแอพรีจูด (Apretude) ยาเพร็พชนิด แบบฉีด ซึ่งการฉีดยานั้นสำหรับครั้งแรกต้องฉีด 2 โดส ภายใน 1 เดือน และจากนั้นฉีดทุก 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีได้ถึง 69 เปอร์เซ็นต์
ยาแอพรีจูด (Apretude) หรือชื่อสามัญคือ Cabotegravir extended-release injectable suspension เป็นการนำยา Cabotegravir (คาโบทีเกรเวียร์) ซึ่งเดิมเป็นยาป้องกันแบบ PrEP มาทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีด
การใช้ Apretude อาจพบผลข้างเคียงได้มากกว่ายาป้องกันชนิดเม็ด เช่น ปวดหัว ไข้ เป็นลม อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่น หรืออาการปวดบวมตำแหน่งฉีดยา
ผู้ผลิตกำหนดให้ผู้ใช้ยาจะต้องมีน้ำหนักเกิน 77 ปอนด์ หรือ 35 กิโลกรัม และมีคำเตือนให้ระวังการแพ้รุนแรง มีผลต่อตับ และความผิดปกติทางอารมณ์ หรือโรคซีมเศร้า
อีกทั้งยังมีราคาต่อเข็มค่อนข้างสูง คือ เข็มละ 3,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 125,000 บาท ต่อเข็ม หรือ 22,000 คอลลาร์ (726,000 บาท) ต่อปี สำหรับหกโดส และคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในต้นปีหน้า โดยแพทย์จะให้คำปรึกษา และแนะนำให้ใช้ยาเพร็พ ชนิด แบบเม็ด รับประทานก่อน เว้นเสียแต่บุคคลดังกล่าวยืนยันขอรับยาป้องกันแบบฉีด เนื่องจากยา Apretude มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หากแนะนำให้ใช้เป็นยาเพร็พ ชนิด แบบฉีด ตั้งแต่เริ่มต้นการรักษา เพราะยาตัวใหม่นี้ยังไม่ได้รับการครอบคลุมสำหรับประกัน แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลกลางจะประกาศให้บริษัทประกันต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายของยา Truvada และ Descovy แล้ว