อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง เสี่ยงฝีดาษวานร ไขข้อสงสัย พร้อมวิธีการป้องกัน

อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง

หัวหน้าศูนย์จีโนมฯ รามาธิบดี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคฝีดาษวานร โดยเฉพาะสายพันธุ์ Clade 1 และ Clade 2 รวมถึงการกลายพันธุ์เป็น Clade 1b ซึ่งมีการแพร่กระจายที่รวดเร็ว และสามารถพบการติดเชื้อในเด็กได้ สายพันธุ์นี้มีอัตราการเสียชีวิตที่สูง จึงมีคำแนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง เนื่องจากมีข้อมูลว่าเชื้อสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ นอกจากนี้ Clade 1b ยังเป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้ง่าย โดยการ อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง ก็สามารถติดเชื้อได้ แม้ว่าจะไม่ใช่การแพร่เชื้อทางอากาศ ปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถป้องกันความรุนแรงของโรคได้ 68-80% แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการรับวัคซีน

โรคฝีดาษวานรกำลังแพร่ระบาดในกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยเฉพาะในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งพบสายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1b) ที่มีการแพร่เชื้อได้ง่าย และพบการติดเชื้อในเด็ก สายพันธุ์นี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าสายพันธุ์เคลด 2บี ที่พบในประเทศไทย สถานการณ์การระบาดนี้ทำให้องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษวานร (MPox) ในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกามีสถานะเป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” นอกจากนี้ ล่าสุดยังพบผู้ป่วยสายพันธุ์เคลด 1 บีในประเทศสวีเดนอีกด้วย ส่งผลให้กรมควบคุมโรคของไทยได้ยกระดับการเฝ้าระวังตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้

Love2Test

สายพันธุ์ฝีดาษวานร สายตระกูล Clade 1 และ Clade 2

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ของโรคฝีดาษวานร (Mpox หรือ Monkeypox) ในงานสัมมนาวิชาการด้านจีโนมิกส์ และการแพทย์แม่นยำ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม

โรคฝีดาษวานรมีสายตระกูลหลัก 2 กลุ่ม คือ Clade 1 และ Clade 2 โดย Clade 1 ดั้งเดิมมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10% อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ที่กำลังระบาดในปัจจุบันไม่ใช่ Clade 1 ดั้งเดิม แต่เป็นสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาเป็น Clade 1b มีลักษณะสำคัญคือ

  1. อัตราการเสียชีวิตลดลงเหลือ 1% ซึ่งถือว่าน่ายินดี
  2. มีการติดต่อที่ง่ายกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดในปี 2565 (Clade 2b)

สำหรับประเทศไทย สายพันธุ์ที่พบในปัจจุบันคือ Clade 2b ซึ่งไม่รุนแรงเท่ากับ Clade 1b

เสี่ยงติดเชื้อฝีดาษวานรเมื่อ อยู่บ้านเดียวกัน 4 ชั่วโมง

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์ใหม่ ดังนี้

  1. อัตราการเสียชีวิตในเด็กสูงถึง 70% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อสายพันธุ์นี้ง่ายขึ้น
  2. การแพร่เชื้อสามารถเกิดขึ้นได้ในบ้านเดียวกัน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผ่านสารคัดหลั่ง การไอจาม
  3. มีข้อมูลจากแอฟริกาว่าการอยู่ในบ้านเดียวกันเพียง 4 ชั่วโมงก็มีความเสี่ยงติดเชื้อได้
  4. การติดเชื้อไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ แต่สามารถเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง หรือการใช้มือที่สัมผัสเชื้อขยี้ตา
  5. ยืนยันว่าไม่ใช่การติดเชื้อทางอากาศ (airborne)

ศาสตราจารย์ยังอธิบายว่าการกลายพันธุ์ของฝีดาษวานรไม่เหมือนกับโควิด-19 และยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของการแพร่ระบาดที่รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังที่เข้มแข็งโดยกรมควบคุมโรค

สำหรับการป้องกัน แนะนำให้ประชาชนที่เดินทางไปประเทศเสี่ยง เช่น แอฟริกา หรือดีอาร์คองโก ให้สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 22 วันหลังกลับมา หากมีอาการคล้ายไข้หวัด หรือมีผื่นขึ้นตามตัว ให้รีบพบแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูล : hfocus

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า