ความหวังของผู้ป่วย HIV นักวิทยาศาสตร์ดัดแปลงพันธุกรรม ไวรัสหายขาด

ดัดแปลง HIV

นักวิทยาศาสตร์ เผยความสำเร็จในการ ดัดแปลง HIV ออกจากเซลล์ หรือกำจัดเชื้อไวรัสออกจากเซลล์ที่ติดเชื้อเอชไอวี ด้วยเทคโนโลยีตัดต่อยีน CRISPR ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล เทคโนโลยี CRISPR นี้ ทำหน้าที่เหมือนเป็น “กรรไกร” ระดับโมเลกุลที่ตัด DNA เพื่อกำจัด หรือทำให้ยีนไม่พึงประสงค์หยุดการทำงาน การวิจัยครั้งนี้ มีความหวังว่าจะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสเอชไอวี ออกจากร่างกายได้ทั้งหมดในอนาคต แต่ยังคงต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกมาก เพื่อยืนยันความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวิธีการนี้

ดัดแปลง HIV ออกจากเซลล์ ทำอย่างไร?

เทคโนโลยี CRISPR (Clustered Regularly Interspaced Short Palindromic Repeats) เป็นเครื่องมือทางชีววิทยาที่ใช้ในการแก้ไข และปรับปรุงดีเอ็นเอ (DNA) โดยเฉพาะในงานวิจัยทางการแพทย์ CRISPR มีความยืดหยุ่น และมีความสามารถในการตัดแต่ง DNA ให้มีประสิทธิภาพ และมีความถูกต้องแม่นยำสูง ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการแก้ไข และปรับปรุงพันธุกรรม เพื่อการวิจัยในด้านการแพทย์ แนวคิดของเทคโนโลยี CRISPR มีความสำคัญ และมีการพัฒนาต่อยอดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีการใช้ CRISPR ในหลายแง่มุมของงานวิจัย และประยุกต์ใช้ ดังนี้:

การแก้ไขพันธุกรรม:

  • CRISPR มีความสามารถในการแก้ไข และปรับปรุงพันธุกรรมของมนุษย์ สัตว์ และพืช ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาพันธุกรรม ให้มีคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น การปรับปรุงคุณสมบัติทางสุขภาพ หรือการปรับปรุงคุณสมบัติทางเกษตรกรรมของพืช และสัตว์

การวิจัยทางการแพทย์:

  • CRISPR มีความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับโรคต่างๆ และความเชื่อมโยงกับพันธุกรรม เช่น การศึกษาการพัฒนาโรคที่มีต่อพันธุกรรม หรือการใช้ CRISPR เพื่อพัฒนาวิธีการรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เป็นต้น

การป้องกันโรค:

  • CRISPR สามารถนำมาใช้ในการป้องกันโรค โดยการแก้ไขพันธุกรรมที่เป็นต้นกำเนิดของโรค เช่น การแก้ไขพันธุกรรมที่ทำให้มนุษย์ มีความเสี่ยงต่ำต่อการติดเชื้อโรคบางชนิด

การพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับอาหาร:

  • CRISPR สามารถใช้ในการปรับปรุงคุณลักษณะทางเกษตรกรรมของพืช เช่น การเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ หรือการทำให้พืชต้านทานต่อโรค และศัตรูพืชได้ดีขึ้น

การทดลองทางวิทยาศาสตร์:

  • CRISPR ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างของเอนไซม์ และกระบวนการของเซลล์ ที่สามารถนำไปใช้ในการเข้าใจฟังก์ชันของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน ยาต้านไวรัส HIV ที่มีอยู่อาจหยุดการแพร่กระจายของเชื้อได้ แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกไปได้อย่างสิ้นเชิง

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม เตรียมนำเสนอบทสรุปเบื้องต้น ของผลการวิจัยในงานประชุมทางการแพทย์ ECCMID 2024 แต่อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยเน้นย้ำว่านี่เป็นเพียงแค่ “การพิสูจน์แนวคิด” และยังไม่ใช่การรักษาไวรัสเอชไอวีอย่างเด็ดขาดในเร็ววันนี้

ดร.เจมส์ ดิกซอน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเซลล์ และยีนบำบัด จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยมองว่ าผลการวิจัยฉบับเต็ม ยังคงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด

“ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก เพื่อยืนยันว่า ผลลัพธ์จากการทดลองในเซลล์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงกับร่างกายมนุษย์ทั้งหมด เพื่อพัฒนาเป็นแนวทางการรักษาในอนาคต การวิจัยครั้งนี้ยังคงต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้อยู่ร่วมกับเชื้อได้” เขากล่าว

ดัดแปลง HIV ออกจากเซลล์ เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

นอกจากทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นๆ ที่กำลังพยายามใช้เทคโนโลยี CRISPR เพื่อต่อสู้กับเชื้อ HIV เช่นเดียวกัน

บริษัท Excision Bio Therapeutics รายงานว่า หลังจากการทดลองเป็นเวลา 48 สัปดาห์ อาสาสมัครติดมีเชื้อไวรัสเอชไอวี จำนวน 3 คน ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง แต่ ดร.โจนาธาน สโตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส จากสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน มองว่า การกำจัดเชื้อเอชไอวีออกจากเซลล์ทั้งหมด ที่อาจเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อภายในร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่มีความท้าทายสูง

“ผลข้างเคียงที่เกิดกับเซลล์อื่นๆ นอกเหนือจากเซลล์เป้าหมาย ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงในระยะยาว ยังคงเป็นสิ่งที่น่ากังวล” เขากล่าว “ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะต้องใช้เวลาอีกหลายปี ก่อนที่การรักษาด้วยเทคโนโลยี CRISPR จะกลายเป็นวิธีการรักษาแบบมาตรฐาน แม้กระทั่งในกรณีที่สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพได้แล้วก็ตาม”

ความหวังในการรักษาด้วยวิธี ดัดแปลง HIV ออกจากเซลล์

เมื่อติดเชื้อเอชไอวี และไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรักษา ร่างกายจะเกิดอาการติดเชื้อ และ HIV จะมุ่งทำลายเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน โดยใช้กลไกของเซลล์เหล่านั้นเอง ในการแบ่งตัวออกไปเป็นจำนวนมาก แม้จะมีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่เชื้อ HIV บางส่วนจะเข้าสู่สภาวะสงบทางคลินิก ซึ่งยังคงมี DNA หรือสารพันธุกรรมของเชื้ออยู่ แม้จะไม่ได้ผลิตเชื้อไวรัสตัวใหม่ก็ตาม ทำให้ผู้ติดเชื้อ HIV จำเป็นต้องได้รับยาต้านเชื้อไวรัสตลอดชีวิต หากหยุดยา เชื้อที่อยู่ในสภาวะดังกล่าว จะกลับมาแพร่กระจายได้อีก และส่งผลยังสุขภาพ

เคยมีผู้ติดเชื้อที่หายขาดจาก HIV กรณีพิเศษ เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็งอย่างรุนแรง ส่งผลให้เซลล์ที่ติดเชื้อบางส่วนถูกกำจัด แต่การรักษานี้ไม่ใช่วิธีการรักษา HIV โดยตรง ผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง) สามารถมีอายุขัยใกล้เคียงกับคนปกติได้

นายริชาร์ด แองเจล จากองค์กร Terrence Higgins Trust กล่าวว่า “แม้การรักษาจะยังห่างไกล แต่ผลงานวิจัยในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการค้นหาวิธีรักษาเอชไอวี และเอดส์ ควรเร่งรัดการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้กลายเป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV”

กล่าวโดยสรุปคือ แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาไวรัสเอชไอวี แต่เรามีรูปแบบการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ผู้ติดเชื้อที่รับประทานยาตามแพทย์สั่ง จึงสามารถมีชีวิตที่ยืนยาว และสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ยา PrEP ซึ่งเป็นยาลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HIV ยังมีให้บริการฟรี สำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อตามคลินิกสุขภาพทางเพศทั่วประเทศ ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่นี้ เราสามารถยุติการติดเชื้อ HIV รายใหม่ในประเทศได้ภายในปี 2030 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เราหยุดยั้งเชื้อไวรัสได้ โดยไม่ต้องใช้วัคซีน หรือวิธีการรักษาด้วยยาต้าน

ขอบคุณข่าวจาก: BBC NEWS

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า