ซิฟิลิส จัดเป็นอีกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Treponema Pallidum ซึ่งอาศัยอยู่ได้ในทุกส่วนของร่างกาย เนื่องจากมีขนาดที่เล็กมากๆ แม้โรค ซิฟิลิส นี้อาจรู้สึกว่าไม่ได้ร้ายแรงหากเทียบกับโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ แต่มันก็ทำให้ผู้ป่วยเองรู้สึกได้ถึงความทรมานได้ไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งสถิติที่ผ่านมาระบุชัดเจนว่าเริ่มมีคนป่วยด้วยโรคดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดใช้คำว่าในเมืองไทยโรคซิฟิลิสกำลังระบาดอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องทำความรู้จักให้มากขึ้น
สำหรับคนที่ติดเชื้อซิฟิลิสส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองป่วยโดยจะเริ่มแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อตั้งแต่ 10 วัน ไปจนถึง 3 เดือน แต่ถ้าช่วงเวลาที่เริ่มรู้สึกว่าร่างกายแปลก ๆ คือผ่านไปประมาณ 20 วัน อันเป็นช่วงที่เข้าสู่การติดเชื้อในระยะแรก สำหรับอาการของโรคนี้จะถูกแบ่งเอาไว้ทั้งสิ้น 3+1 ระยะ ประกอบไปด้วย
พื้นฐานของโรคซิฟิลิสก็ไม่ได้ต่างกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างอื่น หรือสัมผัสกับแผลโดยตรง (ซึ่งก็เกิดจากมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยเป็นหลัก) โดยแผลที่เกิดขึ้นก็มีหลายจุด เช่น ทวารหนัก, อวัยวะเพศ, ช่องปาก นั่นเท่ากับว่าใครที่ไม่ได้ป้องกันแล้วมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก, ช่องปาก หรืออวัยวะเพศยังไงก็มีสิทธิ์ติดเชื้อสูง ขณะเดียวกันสตรีมีครรภ์ที่มีเชื้อโรคนี้อยู่จะทำให้ลูกเองกลายเป็นผู้ป่วยซิฟิลิสตั้งแต่เกิด แต่ที่ไม่ต้องห่วงก็คือคุณสามารถใช้ชีวิตกับคนป่วยซิฟิลิสได้ตามปกติ เช่น จูบ, ทานอาหารร่วมกัน, ในสระน้ำ หรือแม้แต่สัมผัสของกับของใช้ผู้ป่วยก็ไม่มีปัญหา
อย่างที่กล่าวไปว่าฟังดูเผินๆ อาจไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่นัก แต่จริงแล้วโรคนี้สามารถทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้เลยเนื่องจากเชื้อเองได้กระจายสู่ทุกส่วนของร่างกายเรียบร้อยแล้ว นั่นเท่ากับว่าใครก็ตามที่ปล่อยให้เชื้อลุกลามโดยไม่รักษาจะหมดสิทธิ์ทันที อีกทั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอลงแต่ยังไม่สนใจก็มีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อเอชไอวี ขณะที่หญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยระยะ 3 ถือว่าอันตรายต่อทารกในครรภ์มาก ขนาดว่าอาจเสียชีวิตหลังคลอดหรือแท้งระหว่างตั้งครรภ์ได้เลย
วิธีง่ายที่สุดของการป้องกันโรคนี้คือมีต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งหากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แฟน, ภรรยา, สามี ของตนเอง อย่างไรก็ตามหากรู้สึกสุ่มเสี่ยงว่าคู่นอนคุณจะมีโอกาสติดเชื้อก็ควรใช้ถุงยางอนามัยด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากรู้สึกว่าตนเองเริ่มมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นกับร่างกายแม้สวมถุงยางอนามัยก็ควรไปให้แพทย์ตรวจพร้อมทำการรักษาทันที เพราะการใช้ปากก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เช่นกัน
หากเริ่มรู้ว่าตนเองมีอาการดังที่กล่าวมา แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจทันทีอย่านิ่งนอนใจ คิดว่าโรคจะหายไปได้เองเด็ดขาด โดยแพทย์จะดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไป
อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยซิฟิลิสทำการรักษาจนหายจากโรคแล้ว ควรมีการติดตามโดยการตรวจเลือดเป็นประจำทุกๆ 3 เดือน จนครบ 3 ปี และควรปฏิบัติคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ควรบอกกับคู่นอนหรือแฟนของคุณในปัจจุบัน และคู่นอนในอดีตให้รับการตรวจซิฟิลิสด้วยเช่นกัน เพราะหากติดเชื้อก็จะสามารถรักษาได้ทันถ้วงที เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรค ผู้ป่วยซิฟิลิสควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกระทั่งได้รับการรักษาให้หายขาดเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อนหรือไม่ได้ประสิทธิภาพที่ดี หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันด้วยถุงยางอนามัยทุกครั้ง
การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หรือการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นแบบไม่ได้ป้องกัน ย่อมก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคซิฟิลิสและโรคทางเพศสัมพันธ์อีกมากมาย ทางที่ดี คือ เมื่อคุณรู้ว่าตนเองติดเชื้อ หรือสงสัยว่ามีความเสี่ยงก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยตรง โรคเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องน่าอายแถมถ้ารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ยังมีการรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยเอาไว้อาจเกิดผลเสียต่างๆ ตามมาและมีผลต่อการเสียชีวิตที่สูงมากเลยทีเดียว
นักวิทยาศาสตร์ …
บทใหม่แห่งความร…