เมื่อถึงเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายหรือ ‘Pride Month’ เราก็จะเริ่มเห็นการตลาดสีรุ้ง กับแบรนด์ต่างๆและดูเหมือนจะมากขึ้นในทุกปี Rainbow Washing มีการถกเถียงเรื่องนี้กันมากขึ้นและค่อนข้างที่จะส่งผลกระทบในประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน
คือกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์ต่างๆ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สินค้าลิมิตเตดอิดิชัน หรือแคมเปญโฆษณาที่ฉาบด้วย สีรุ้ง หรือ ธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาว LGBTQAIN+ แต่ไม่เคยผลักดันกิจกรรมหรือสนันสนุน LGBTQAIN+ จริงๆ ไม่มีนโยบายที่ส่งเสริมสิทธิและประโยชน์ทั้งกลุ่มคนพิการ คนสูงวัยต่างๆ แต่ทำขึ้นเพื่อความฉาบฉวย ต้องการเกาะกระแส และกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์เท่านั้น
กล่าวคือการใช้สัญลักษณ์หรือสีสันของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) เพื่อดึงดูดความสนใจหรือเพิ่มยอดขายโดยไม่คำนึงถึงการสนับสนุนหรือความมุ่งมั่นต่อความเท่าเทียมทางเพศอย่างแท้จริง
ตัวอย่างของกลยุทธ์การตลาด ได้แก่
วิธีสังเกต เช่น
หากพบเห็นกลยุทธ์การตลาดนี้ เราสามารถดำเนินการได้ดังนี้
การไม่ได้เป็นผู้สนันสนุนในงาน แต่มาเดินงาน Bangkok Pride ที่ทางฝั่งผู้จัด บอกว่ามีหลายแบรนด์ หลายบริษัทใหญ่ มาร่วมขบวน มีโลโก้ และถือป้าย ถ่ายภาพทำ PR Media ณ วันเดินขบวน โดยไม่ได้สนับสนุนการจัดงาน ช่วยเหลือทีมงาน อาสาสมัคร ในแง่การร่วมขบวน ซึ่งทางผู้จัดประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มจัดงานว่าทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ปัญหาคือเอาป้าย ธง แปะ Logo มาใช้ในพื้นที่การเดินขบวน แบบไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนงาน
เครือข่ายชุมชนผู้มีความหลากหลายทั่วประเทศ ที่ต่อสู้เรื่องสิทธิ์ Rainbow Washingมากว่า 10 ปี เงินส่วนนี้บางส่วนจะกระจายไปให้หน่วยงานต่างๆมากขึ้น และตั้งใจจัดร่วมกับกรุงเทพมหานครเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride ในปี 2028 เลยจำเป็นต้องมีมาตรการและข้อกำหนดในการร่วมขบวนของบริษัทและแบรนด์ อย่างชัดเจน เพื่อความชัดเจนไม่ใช้เป็นเชิงพาณิชย์สำหรับผู้ที่ที่ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน เพื่อแสดงจุดยืนในแต่ละบริษัทมีแคมเปญในช่วง Pride Month การร่วมสนับสนุนขบวนเป็นหนึ่งในนโยบายที่สนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศจริงๆ ไม่ใช่แค่จัดทำขึ้นเพื่อการตลาดเฉพาะในเดือนนี้
ฝั่งคนของบริษัทและแบรนด์ ที่โดนพาดพิง ออกมาโต้กลับ จริงๆบริษัทและแบรนด์เหล่านั้นต้องการแสดงพลังและมีนโยบายสนับสนุนกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย ไม่ใช่การทำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทหรือ การRainbow Washing ตามที่กล่าวหา และบริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ รวมถึงสวัสดิการอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุผลใดจึงไม่ได้เข้ามาร่วมเป็นผู้สนันสนุนในงาน ซึ่งในทางกลับกันมีหลายแบรนด์ที่สนับสนุนงานแต่เขามองว่างานที่อยากสนับสนุนและเป็นการเริ่มทำงานร่วมกันของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และมีหลายมิติ หลายประเด็นมากๆ ในทิศทางที่ดีคือมีพาร์ทเนอร์ หลายแบรนด์ทำแคมเปญเป็นครั้งแรก ในขบวนนี้ และสิ่งที่เขามองคือการทำงานแบบยั่งยืน เพื่อผลักดันคนกลุ่มนี้ โดยเริ่มวางแผนที่จะมีนโยบายขยาย และครอบคลุมถึงกลุ่มคนที่มีความหลากหลายจริงๆ เริ่มสนับสนุนให้มีพื้นที่ปลอดภัยในที่ทำงานและเอื้ออำนวยต่อพนักงานในระยะยาว นั่นคือสิ่งที่แบรนด์ได้จากการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้
เพราะหลายบริษัทหลายแบรนด์ยังมีความเข้าใจผิดว่าขบวนไพรด์ (Pride) นั้นคือการเฉลิมฉลอง แต่งตัวสวย แค่แปะสีรุ้งในสินค้าขายได้แล้วจบ แต่แท้จริงแล้วหัวใจของขบวนไพรด์ (Pride) คือ การแสดงออกทางเพศที่จะส่งสารประเด็นต่างๆทางสังคมให้ถูกต้อง
ขบวนไพรด์เป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศที่จัดขึ้นทั่วโลกทุกปี มักจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ
ขบวนไพรด์เป็นโอกาสสำหรับสมาชิกชุมชน LGBTQ+ ที่จะออกมาแสดงความเป็นตัวเองและเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ ขบวนไพรด์ยังถือเป็นการแสดงออกถึงความเท่าเทียมทางเพศและเรียกร้องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขบวนไพรด์อยู่บ้าง ต่อไปนี้คือความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับขบวนไพรด์:
ความจริงแล้ว ขบวนไพรด์เป็นงานเฉลิมฉลองที่หลากหลาย มีการแสดงออกถึงความหลากหลายทางเพศในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการแต่งกาย ศิลปะ ดนตรี และการแสดง การแสดงออกบางประการอาจดูท้าทายขนบธรรมเนียมทางสังคม แต่ไม่ได้หมายความว่าขบวนไพรด์เป็นงานลามกหรือเสื่อมทราม
ความจริงแล้ว ขบวนไพรด์เป็นงานสำหรับทุกคนที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเพศตรงข้ามหรือ LGBTQ+ ก็เข้าร่วมขบวนไพรด์ได้
ความจริงแล้ว ขบวนไพรด์เป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและเรียกร้องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ขบวนไพรด์ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การแสดงความเกลียดชังต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ขบวนไพรด์เป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศที่จัดขึ้นทั่วโลกทุกปี มักจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ เป็นโอกาสสำหรับสมาชิกชุมชน LGBTQ+ ที่จะออกมาแสดงความเป็นตัวเองและเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ ขบวนไพรด์ยังถือเป็นการแสดงออกถึงความเท่าเทียมทางเพศและเรียกร้องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขบวนไพรด์อยู่บ้าง ต่อไปนี้คือความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับขบวนไพรด์:
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจ บริษัทและแบรนด์ ต้องใส่ใจและเข้าใจหัวใจของการเดินขบวน มากกว่าใช้พื้นที่โปรโมทแบรนด์หรือสินค้า เพราะการกระทำแบบนั้นก็ไม่ต่างกับการใช้สีรุ้งเพื่อการตลาดเพียงอย่างเดียว Rainbow Washig หรือ Queer Baiting
ผู้จัดจะต้องเป็นองค์กรณ์ภาคสังคม ไม่ใช่บริษัทและแบรนด์ภาคธุรกิจ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นตัวอย่างที่ดีหาแนวทางร่วมกันในการจัดขบวน Pride ในปีต่อๆไป เพื่อให้เข้าใจจุดมุ่งหมาย และการสนับสนุนแบบยั่งยืนต่อกลุ่มคน LGBTQAIN+ เป็นมิตรกับคนทุกเพศ ทุกวัย และให้ความใส่ใจสำหรับผู้พิการ สิทธิของคนข้ามเพศ เรื่องการเลือกใช้คำนำหน้า ต่างๆ ว่าเขายังต้องการการสนับสนุนอะไรอีกบ้างในประเด็นอะไรบ้างในสังคมไทย
World Pride คืองานสัปดาห์ความสามัคคีของ LGBTQ+ ที่ไม่ได้เน้นเพียงการเฉลิมฉลอง การแต่งตัวสีรุ้ง หรือการขายสินค้าเท่านั้น แต่มีเป้าหมายที่หลึกหลังและมีนวัตกรรมในการนำเสนอประเด็นสังคมอันสำคัญออกมา งานนี้ส่งเสริมการหารือและเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศและการยอมรับความแตกต่างของทุกคนในสังคม
การจัด World Pride ช่วยให้สามารถยกข้อความสำคัญเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของ LGBTQ+ สู่ศาสตร์สารคดี โดยการจัดกิจกรรมเช่นสัมมนา สัมภาษณ์ และการแสดงอาศัยที่เน้นถึงประเด็นที่สำคัญ เช่น ความเท่าเทียมในสังคม การยุติธรรม และสิทธิและความเป็นมนุษย์ของทุกคน
นอกจากนี้ งาน World Pride ยังเป็นโอกาสที่สร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและองค์กรที่สนับสนุนความเป็นอยู่ของ LGBTQ+ โดยการร่วมมือกันในการสร้างสรรค์งานนี้ เราสามารถสร้างสังคมที่เป็นกันเองและเสรีภาพได้มากยิ่งขึ้น จากนั้น เราจึงเห็นได้ว่าจุดมุ่งหมายแท้จริงของ World Pride ไม่ได้รับการสังเกตแค่ในด้านบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเข้าใจและการรับรู้ในสังคม เพื่อสร้างความเท่าเทียมและความยุติธรรมให้กับทุกคนในสังคมของเราทั้งหมด
นักวิทยาศาสตร์ …
บทใหม่แห่งความร…