ตรวจเอชไอวี มักจะต้องรอให้ร่างกายผลิตและปล่อยสารแอนติบอดีออกมาก่อนที่ผลตรวจจะเป็นไปได้ ระยะนี้เรียกว่า “ระยะแฝง” หรือระยะที่ตรวจไม่พบการติดเชื้อ (Window Period) โดยทั่วไป ระยะฟักตัว ของเชื้อจะอยู่ที่ประมาณ 21 วัน ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมในการ ตรวจ hiv จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของร่างกายของแต่ละคน ในระยะแฝงนี้ หากคุณต้องการ ตรวจhiv หลังจากเสี่ยง ควรพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของคุณ
การ ตรวจเลือด hiv ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การแนะนำสำหรับบุคคลที่อาจมีความเสี่ยงที่สูงในการติดเชื้อ ให้ทำ การ ตรวจ hiv เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่คนไทยมักจะถามกัน คือตรวจ hiv กี่วันถึงจะรู้ผล แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีการคาดประมาณว่ามีคนไทยติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ต้นทั้งสิ้นหนึ่งล้านสองแสนคน เสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง คาดประมาณว่ามีคนไทยที่ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งมีชีวิตอยู่ขณะนี้ประมาณ 6 แสนคน มีคนไทยติดเชื้อรายใหม่ ขณะนี้ประมาณปีละ 16,000 คน และเสียชีวิตจากเอชไอวีประมาณปีละน้อยกว่า 10,000 คน โดยแนวโน้มการเสียชีวิตจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากรัฐจัดบริการดูแลรักษาทั่วถึงมากขึ้น พร้อมทั้งรณรงค์ ให้ประชาชนตรวจเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะป่วยขึ้นมา และการที่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ เป็น ก้าวแรกที่สำคัญจะนำไปสู่การป้องกันและดูแลรักษาที่ถูกต้องและจริงจัง
การจะรู้ว่าติดเชื้อ หรือไม่ ต้องอาศัยวิธีการตรวจเชื่อเอชไอวีเพียงอย่างเดียว ซึ่งคนไทยจำนวนมากยังเข้าใจว่าถ้าร่างกายแข็งแรง แสดงว่าไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี นอกจากนี้หลายคนไม่คิดว่าตัวเองอาจมีโอกาสติดเอดส์ได้ทั้งๆ ที่มีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อ การติดเชื้อเอชไอวี เพราะคิดว่ามีโอกาสน้อย หรือตัวเองไม่น่าจะมีความเสี่ยง การรณรงค์จึงทำให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของการตรวจเอชไอวี เช่นเดียวกับการตรวจเช็คสุขภาพ ประจำปี กับการตรวจเอชไอวีฟรี จึงเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐควรนำขึ้นมาพิจารณาเพื่อให้ทุกคนปฎิบัติอย่างจริงจัง ถ้าจะทำการป้องกัน การแพร่ระบาดของเอชไอวีที่ให้ได้ผล รวมทั้งการยอมรับว่าการตรวจเอชไอวี เป็นหน้าที่ และยังมีประโยชน์ ซึ่งควจะทำการตรวจป็นประจำกันทุกคน (Routine Voluntary Testing)
การตรวจเอชไอวีควรพิจารณาว่าคุณมีความเสี่ยงมากี่วันแล้ว โดยปัจจุบันที่นิยมตรวจกันจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ
การตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Antibody) ของร่างกาย ที่สร้างขึ้นเพื่อต้านการเข้าทำลายของเชื้อเอชไอวี คือวิธีการที่ได้รับความนิยมในการคัดกรองการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในปัจจุบัน ผลตรวจปรากฏได้ในระยะเวลาเร็วภายหลังการตรวจเพียง 1-2 ชั่วโมง แต่ควรระวังว่าผลตรวจนี้จะต้องรอประมาณ 1 เดือนหลังจากเกิดความเสี่ยงเพื่อให้ผลมีความเป็นประจำ ยกตัวอย่าง, หากคุณมีความเสี่ยงในคืนก่อนหน้าแล้วไปตรวจ Anti-HIV ผลการตรวจจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้มาตรการป้องกันในคืนนั้นเป็นเหตุทำให้ติดเชื้อหรือไม่ แม้ผลการตรวจเลือดจะแสดงเป็นลบ (Negative = ไม่พบเชื้อเอชไอวี) โดยทั่วไป แพทย์จะอธิบายว่าเชื้ออาจยังอยู่ในระยะฟักตัวและการตรวจอาจยังไม่พบเชื้อ (Non-reactive) ในช่วงเวลานั้น นี่คือวิธีการตรวจชนิด Anti-HIV
การตรวจเอชไอวีแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) คือการหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี หรือแกนในของเชื้อ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า NAT เป็นวิธีที่มีความไวมากที่สุด การตรวจในรูปแบบนี้ จะมีข้อแตกต่าง จากการตรวจแบบ Anti-HIV คือจะสามารถชี้วัดผล จากร่างกายย้อนหลังไปประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับความเสี่ยง เช่น การไปมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกันมาเมื่อ 7 วันก่อน แล้ววิตกกังวลว่าอาจได้รับความเสี่ยง จากการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งการตรวจในรูปแบบ NAT จะทราบผลเลือดว่าเป็นบวก หรือเป็นลบได้แน่ชัด กว่าการตรวจแบบ Anti-HIV ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการตรวจคัดกรองเลือดผู้บริจาคโลหิตแต่ยังไม่นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเอชไอวีในสถานพยาบาล
การตรวจในรูปแบบ Rapid HIV Test เป็นการตรวจเอชไอวี ชนิดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันจะใช้เวลาในการรอผลเพียง 20 นาทีเท่านั้น ถึงแม้ว่า จะได้ผลตรวจที่เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ก็เป็นเพียงการตรวจ เพื่อคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ข้อดี คือ สามารถตรวจได้ไว รู้ผลภายในไม่กี่นาที แต่ข้อเสีย คือ หากว่าการตรวจแบบ Rapid HIV Test ให้ผลเป็นบวก (พบเชื้อ HIV) ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่า ติดเชื้อจริง ๆ ด้วยวิธีการตรวจด้วยขั้นตอน Anti-HIV หรือ NAT แล้วแต่ระยะเวลา ที่ได้รับเชื้อมา
การตรวจโปรตีนของเชื้อที่ชื่อว่า p24 (HIV p24 antigen testing) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ตรวจการติดเชื้อในระยะแรกที่ผู้ได้รับเชื้อยังไม่สร้างแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV) หรือมีระดับแอนติบอดีที่ต่ำจนไม่สามารถตรวจวัดได้ โดยสามารถตรวจได้ภายหลังการติดเชื้อประมาณ 14-15 วัน ทุกวันนี้สถานพยาบาลหรือศูนย์วิจัยบางแห่งมีบริการตรวจสารพันธุกรรมของเอชไอวีเพื่อหาการติดเชื้อในช่วงแรก สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่วันที่ 5 – 7 นับจากวันที่รับเชื้อ (เช่น รับเชื้อวันเสาร์ ก็ตรวจหาการติดเชื้อได้ตั้งแต่วันศุกร์) การตรวจแบบนี้เรียกสั้น ๆ ว่าแนต (NAAT – Nucleic Acid Amplification Testing) ซึ่งมีบริการฟรี เฉพาะบางที่ เช่น คลินิกนิรนาม (ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย) แต่ถ้าเป็นที่อื่น ค่า ตรวจเอดส์ จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท
เป็นการทดสอบตัวเองสำหรับเอชไอวีเป็นวิธีที่ดีในการทราบสถานะของคุณ การทดสอบทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่มีบางสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำการทดสอบ การตรวจเอชไอวีมี 2 ประเภท คือ การตรวจเลือดและการตรวจเชื้อเอชไอวีในช่องปาก การตรวจเลือดมักจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ แต่ก็มีชุดอุปกรณ์ที่คุณสามารถซื้อได้เองที่บ้าน ตรวจสอบว่าคุณติดเชื้อ HIV หรือไม่ และรับการรักษาทันที คุณสามารถขอรับการทดสอบเอชไอวีในช่องปากได้ที่สำนักงานแพทย์หรือคลินิกของคุณ การทดสอบเอชไอวีในช่องปากคล้ายกับการทดสอบความทนทานต่อกลูโคสในช่องปากเพราะจะตรวจสอบน้ำลายของคุณเพื่อหาไวรัสเพื่อดูว่าคุณติดเชื้อหรือไม่ ปัจจุบัน ชุดตรวจ hiv ด้วยตัวเองที่ผ่าน อย. คือ Insti อินสติ
ผู้เข้ารับการตรวจไม่มีเชื้อ หรืออาจยังไม่พบเชื้อ เนื่องจากอยู่ในระยะฟักตัว เรียกว่าผลลบลวง ซึ่งหากมีการติดเชื้อ จะสามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้ ดังนั้นจึงควรมาตรวจซ้ำอีกครั้งในระยะ 3-6 เดือน หรือ และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่จะเน้นย้ำเกี่ยวกับการลดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อให้ผลเลือดเป็นลบตลอดไป (การใช้ถุงยางอนามัย ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับทุกคน) พร้อมแนะนำให้มาตรวจเอชไอวีเป็นระยะ
ผลเลือดเป็นบวก หรือ reactive เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง และส่งต่อเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา และรับยาต่อไป ซึ่งสามารถใช้สิทธิการรักษา และรับยาได้ฟรีที่โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนตามสิทธิ (ประกันสังคมหรือหลักประกันสุขภาพ)
เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตนเอง และส่งต่อเพื่อรับบริการดูแลรักษาสุขภาพที่จำเป็น
ผู้ที่มีผลเอชไอวีเป็นบวกแต่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ คือ ผู้ที่ทานยาอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้เชื้อไวรัสถูกระงับไว้ภายในร่างกาย กล่าวคือ เชื้อไวรัสถูกระงับไว้จนกระทั่งการตรวจเลือดไม่สามารถค้นพบเชื้อไวรัสในตัวอย่างเลือดได้
ผู้ที่มีสถานะตรวจสอบไม่พบเชื้อเอชไอวี ไม่สามารถแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่นได้ ถึงแม้ว่าจะยังมีผลการตรวจเอชไอวีเป็นบวก แต่ก็จำเป็นต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงสถานะตรวจสอบไม่พบเชื้อเอชไอวีนี้เอาไว้
สถานบริการ | รายการ/ราคา |
คลินิกนิรนาม | ตรวจแบบรู้ผลทันทีจะเริ่มต้นที่ 200 บาท ตรวจด้วยวิธี PCR เริ่มต้นที่ 1,500 บาท (รู้ผล 1 สัปดาห์) |
ตรวจที่ LAB | ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 500-2,500 บาท ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจ |
โรงพยาบาลเอกชน | ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 600-3,000 บาท |
โรงพยาบาลรัฐ | โรงพยาบาลของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ และสามารถตรวจเอชไอวีได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง เพียงมีบัตรประชาชน และทั้งนี้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็สามารถ ตรวจ HIV ฟรี ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต จากผู้ปกครอง ไม่ต้องอดข้าว อดน้ำ ก่อนไปตรวจ |
การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีในไทยนั้น สามารถตรวจได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ในปัจจุบันนี้เพียงถือบัตรประชาชน และเดินทางไปที่โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์อนามัย หรือคลินิกที่ร่วมรายการ แต่ทั้งนี้ควรโทรสอบถามก่อนล่วงหน้า เพื่อความมั่นใจว่าสามารถตรวจได้ฟรีจริงหรือไม่
หากท่านไม่ประสงค์ไปตรวจตามสถานพยาบาลของรัฐ เนื่องจากอาจจะต้องรอคิวนาน รอฟังผลนาน ด้วยจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่มาก ท่านสามารถไปตรวจได้ตามโรงพยาบาลเอกชน และคลินิก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายซึ่งจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับที่ ๆ ท่านเลือกไป แต่รับรองว่าไม่ต้องรอคิวนาน ๆ และรู้ผลได้เร็ว แน่นอน
หรือคลินิกพิเศษต่างๆ เช่น คลีนิคนิรนาม หรือคลินิกพิเศษของศูนย์ดรอปอินต่าง ๆ เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานบริการที่เข้ารับบริการ เพื่อดูวัน เวลา และสถานที่ให้บริการ บริการที่มี และเงื่อนไขการให้บริการต่าง เช่น ต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน บริการเฉพาะกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย เป็นต้น
แต่ทางเลือกอีกทางสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางไปตรวจที่สถานพยาบาลเลย แค่เพียงไม่มั่นใจว่าได้รับความเสี่ยงมา จริงหรือไม่ ท่านสามารถซื้อ ชุดตรวจคัดกรองเอชไอวี ด้วยตนเองมาตรวจก่อนได้ เนื่องจากเป็นการตรวจคัดกรองซึ่งการแปลผล จะสามารถบอกได้ว่าเสี่ยง หรือไม่เสี่ยง โดยหากผลเป็นบวก ก็จะหมายความว่า ท่านมีความเสี่ยง ได้รับการติดเชื้อเอชไอวี ให้เดินทางไปตรวจยืนยันที่โรงพยาบาล แต่ถ้าหากตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจดังกล่าวแล้ว ผลเป็นลบก็จะหมายความว่า ท่านไม่ได้รับความเสี่ยง ซึ่งก็จะช่วยให้สบายใจมากขึ้น ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงแสดงผลได้แค่ว่าเสี่ยง หรือไม่เสี่ยง เนื่องจากตามสถานพยาบาลมักจะให้ท่านตรวจคัดกรองก่อนอยู่แล้ว ด้วยการตรวจนั้นไม่ยาก และรู้ผลได้เร็วกว่า อีกทั้งเป็นวิธีที่ค่าใช้จ่ายไม่สูง หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงก็จะดำเนินการตรวจยืนยันด้วยวิธีที่ละเอียดขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากตรวจคัดกรองและพบว่าไม่มีความเสี่ยงตั้งแต่แรก ก็จะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าคุณมากขึ้น
ดังนั้น การที่คุณเลือกซื้อ ชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง มาใช้ตรวจก่อน จึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้คุณทราบความเสี่ยงได้เร็วขึ้น ทำให้คุณสามารถตัดสินใจเข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลได้เร็วขึ้น ส่งผลต่อการรักษาได้เร็วขึ้น
สำหรับต่างจังหวัด การตรวจเอชไอวีฟรี อาจจะยังไม่ครอบคลุม ทุกพื้นที่ ดังนั้น ประชาชน ที่ต้องการตรวจเอชไอวี ควรโทร ไปสอบถามสถานพยาบาลนั้นๆ ว่าได้เข้าร่วมโครงการ ตรวจเอชไอวีฟรีหรือไม่
ฮักษา กลางเวียง เชียงใหม่ ที่อยู่ 77/7 ถ.คชสาร ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่ ประเทศไทย
อีเมล์ hugsamedical@gmail.com เบอร์โทร 0933099988
การตรวจ hiv เป็นวิธีเดียวที่จะทราบว่าคุณมีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ การทดสอบสามารถทำได้ทุกเมื่อระหว่างการติดเชื้อ แต่แนะนำให้คนไปตรวจทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขามีเพศสัมพันธ์ มีเหตุผลหลายประการที่ผู้คนควรได้รับการทดสอบเอชไอวี การทดสอบสามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคร้ายแรงนี้ได้ ผู้ที่ติดเชื้อแล้วจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพของตนเอง ซึ่งอาจช่วยให้พวกเขาควบคุมสุขภาพของตนเองได้ดีขึ้นและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น