PPE ย่อมาจาก Pruritic Papular Eruption in HIV คือ โรคตุ่มคันในคนที่เป็น HIV ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV มีอาการแสดงหลายระดับขึ้นกับระยะติดใหม่ๆดูแลร่างกายดีภูมิคุ้มกันยังดีอยู่ก็จะไม่มีอาการอะไร เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ตรวจเลือดก็จะไม่ทราบว่าผู้นั้นมีเชื้อ HIV อยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หากไม่รับประทานยาหรือปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ ภูมิคุ้มกันลดลงก็จะมีการติดเชื้อ โรคฉวยโอกาส ต่างๆ ทำให้เจ็บป่วยได้ ซึ่ง ตุ่ม PPE นั้น มักพบในคนป่วยHIV ที่มีอาการมากแล้ว โดยรอยโรค PPE อาจเป็นตัวสะท้อนบอกสถานะของภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยได้ คือการมี PPE อาจหมายถึงภาวะภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่ำแล้ว
ลักษณะเป็นตุ่มคัน คล้ายยุงแมลงกัด มีรอยแดงอักเสบ รอยดำหลังการอักเสบ อาจมีหนองจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ตามมาจากการเกาพบได้ทั้งในและนอกร่มผ้า โดยพบที่บริเวณนอกร่มผ้าได้บ่อยกว่าพบในระยะที่ภูมิคุ้มกันต่ำคืออาการของHIV เป็นค่อนข้างมากแล้วมีอาการเรื้อรัง มีอาการคันมากจึงพบมีรอยเกาและมีรอยดำ รอยแผลเป็นหลังเกาอยู่ มักเป็นที่แขนขา มากกว่าที่ใบหน้า
PPE ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่HIVเป็นโรคติดต่อ หากเราต้องพบหรือสัมผัสกับผู้ป่วย HIV ที่มีอาการ PPE ข้อควรระวัง คือไม่ควรสัมผัสเลือดหนองจากแผล เพราะเชื้อ HIV สามารถติดต่อทางสารคัดหลั่งต่างๆจากร่างกาย เข้าทางผิวหนังที่มีแผลของเราได้
การป้องกันตุ่ม PPE นั้นสามารถทำได้โดยการตรวจเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ และเริ่มการรักษาด้วย ยาต้านไวรัส ทันทีที่ทราบว่าติดเชื้อเอชไอวี นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มเติม เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การรักษาตุ่ม PPE เป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ควรรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณเชื้อในร่างกาย และป้องกันไม่ให้พัฒนาไปสู่โรคเอดส์ได้
นักวิทยาศาสตร์ …
บทใหม่แห่งความร…