โรคเริม เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งของผิวหนัง มีลักษณะเป็นเยื่อเมือกต่าง ๆ ทำให้มีลักษณะพุขึ้นเป็นตุ่มใสเล็ก ๆ แล้วแตกเป็นแผล ตกสะเก็ด ซึ่งหายได้เอง มักกำเริบซ้ำและเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมักมีอาการกำเริบได้บ่อยและรุนแรงกว่าปกติ บทความนี้จะพูดถึง วิธีป้องกันโรคเริม เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับโรคเริม และป้องกันตัวเองจากโรคเริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรคเริม (Herpes) เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง และเยื่อเมือกที่เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex (HSV) ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
การเป็นครั้งแรก Primary Infection เริ่มด้วยอาการปวดแสบร้อน อาจมีอาการคัน เจ็บจี้ดๆหรือปวดแสบปวดร้อนบ้าง ต่อมาจะมีอาการบวมและอีก 2 – 3 วันจะมีตุ่มน้ำพองใสเหมือนหยดน้ำเล็กๆ มีขอบแดง ตุ่มน้ำมักจะแตกออกใน 24 ชั่วโมงและตกสะเก็ดเป็นแผลถลอกตื้นๆ การกลับมาเป็นซ้ำ Recurring Infections เมื่อมีการติดเชื้อครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นจะมีการกลับเป็นผื่นใหม่เป็นระยะๆ เนื่องจากร่างกายกำจัดเชื้อไวรัสได้ไม่หมด การกลับมาเป็นใหม่ของโรคเริมแต่ละครั้งมักมีอาการน้อยกว่าและเป็นเกิดเป็นพื้นที่น้อยกว่าไม่ค่อยมีไข้ แต่มักเป็นบริเวณใกล้ๆกับที่เดิมโดยเฉพาะที่อวัยวะเพศ ผู้ที่เป็นโรคนี้มาแล้วมักรู้สึกว่ามี “อาการเตือน” นำมาก่อน
วิธีป้องกันโรคเริม มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ดังนี้
โรคเริม ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาให้อาการดีขึ้น และบรรเทาอาการคัน ระคายเคืองได้ การรักษาโรคเริม มักใช้ยาต้านไวรัส เช่น
ระยะเวลาในการรักษาโรคเริมด้วยยาต้านไวรัส ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคเริม ความรุนแรงของอาการ และอายุของผู้ป่วย
หากพบว่าตนเอง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเริม เช่น มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยโรคเริม หรือมีอาการคัน ระคายเคืองบริเวณปากหรืออวัยวะเพศ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสม
นักวิทยาศาสตร์ …
บทใหม่แห่งความร…