ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 เกี่ยวกับการระบาดของโรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง (MPOX) สายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงมากขึ้น
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การระบาดของฝีดาษวานรนอกทวีปแอฟริกา รวมถึงในประเทศไทยที่พบผู้ป่วยมากกว่า 400 ราย เป็นสายพันธุ์กลุ่ม 2 (Clade 2b) ซึ่งไม่รุนแรงมากนัก โดยส่วนใหญ่พบในผู้ใหญ่เพศชาย โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย การติดต่อมักเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดผ่านการมีเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ในประเทศคองโก ด้วยสายพันธุ์ดั้งเดิมกลุ่มที่ 1 (Clade 1) ที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็น Clade 1b ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า การระบาดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ป่วยนับหมื่นรายและแพร่กระจายไปยังหลายประเทศในทวีปแอฟริกา สายพันธุ์นี้สามารถติดต่อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งเพศชายและหญิง โดยพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก
นอกจากการติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดแล้ว ยังพบว่าสายพันธุ์นี้สามารถแพร่กระจายผ่านฝอยละอองทางการหายใจได้ด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดใหญ่ในวงกว้างทั่วโลก ศ.นพ.ยงจึงเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
สำหรับประเทศไทย ศ.นพ.ยงแนะนำให้มีการเฝ้าระวังผู้ป่วยฝีดาษวานรทุกราย โดยต้องมีการตรวจวินิจฉัยและแยกสายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของทั้งสายพันธุ์เดิมและสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ มาตรการเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการระบาดและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- องค์การอนามัยโลก ประกาศ “ฝีดาษวานร” เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
- 7 สัญญาณอาการของโรคฝีดาษวานร
ขอบคุณข้อมูล : tnnthailand
การเฝ้าระวังและการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการระบาดของโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์ใหม่นี้ จะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ทั้งนี้ ประชาชนควรติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรค